ธันวาคม 5, 2025

Blog

ต้นกระดังงา ไม้หอมไทย ดอกหอมแรง ใช้ทำซุ้มและน้ำมันหอมระเหย

คลังบทความ
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

Last Updated on ตุลาคม 31, 2025 by admin

สรุปย่อ: รู้จัก ต้นกระดังงา ใน 1 นาที

  • คืออะไร: ไม้ต้นในวงศ์กระดังงา มีดอกหอมแรง สีเขียวอ่อนถึงเหลืองนวล ใช้ปลูกประดับและกลั่นน้ำมันหอม
  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Cananga odorata (Lam.) Hook.f. & Thomson
  • ชื่อสามัญ: Ylang-ylang
  • ชื่อท้องถิ่น: กระดังงาไทย, สะบันงา, สะบันงาต้น
  • กลิ่นหอม: หอมแรงช่วงเย็นถึงค่ำ เป็นฐานกลิ่นในน้ำหอมระดับโลก
  • แหล่งกำเนิด: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหมู่เกาะแปซิฟิก

ลักษณะทั่วไปของ ต้นกระดังงา

  • รูปทรง: ไม้ต้นสูง 10–20 เมตร หากไม่ตัดแต่งจะสูงโปร่ง กิ่งเอนและแตกต่ำได้เมื่อเด็ดยอดตั้งแต่เล็ก
  • ใบ: รูปรี ปลายแหลม ขอบเรียบ สีเขียวเข้มเป็นมัน
  • ดอก: กลีบดอกยาวเรียว บิดเป็นเส้น มีสีเขียวอ่อนเมื่อเริ่มบานและเปลี่ยนเป็นเหลืองนวล มีกลิ่นหอมแรงโดยเฉพาะช่วงเย็น
  • ผล: ผลกลุ่มทรงกลมสีเขียวเข้ม ออกตามปลายกิ่ง

ความแตกต่างของ ต้นกระดังงาแต่ละชนิด

ชื่อลักษณะหมายเหตุ
กระดังงาไทยไม้ต้นสูง ดอกสีเหลืองนวล หอมแรง ใช้กลั่นน้ำมันเป็นสายพันธุ์หลักที่ปลูกทั่วไป
กระดังงาจีนไม้เถาเลื้อย ดอกเหลืองอมเขียว หอมอ่อนปลูกเป็นไม้ซุ้ม
การเวก (สะบันงาเครือ)ไม้เถาเลื้อยพื้นเมืองไทย ดอกเล็ก กลิ่นหอมอ่อนใช้ประดับและปลูกเลื้อยซุ้ม

การปลูกและการดูแล

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

  • ชอบแดดจัดถึงแดดครึ่งวัน
  • ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี pH กลางถึงอ่อนกรด
  • อากาศร้อนชื้นเหมาะที่สุด
  • หลีกเลี่ยงพื้นที่น้ำขังและลมแรงจัด

วิธีปลูก

  1. ขุดหลุมกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตร
  2. ผสมดินปลูกกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1:1
  3. วางต้นกล้ากระดังงาลงหลุม กลบดินให้แน่นพอประมาณ
  4. รดน้ำให้ชุ่มและปักไม้ค้ำพยุงต้นในช่วงแรก

การให้น้ำและปุ๋ย

  • รดน้ำทุก 2–3 วันในช่วงแรกของการปลูก
  • เมื่อโตแล้วสามารถรดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
  • ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 เดือนละ 1 ครั้งเพื่อบำรุงใบและลำต้น
  • ก่อนออกดอก ใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 เพื่อเร่งการออกดอก

การตัดแต่งและฟอร์มต้น

  • เด็ดยอดตอนต้นยังเล็กเพื่อให้แตกกิ่งด้านข้าง
  • ตัดแต่งกิ่งแห้งหรือกิ่งไขว้กันทุกปี
  • หากปลูกเพื่อเก็บดอก ควรตัดแต่งให้พุ่มเตี้ยเพื่อเก็บสะดวก

โรคและแมลงที่พบบ่อย ในต้นกระดังงา

การเก็บดอกและการกลั่นน้ำมันหอมระเหย

  • ดอกกระดังงาที่ให้กลิ่นดีที่สุดคือ “ดอกบานเต็มที่” สีเหลืองนวล
  • เก็บในตอนเช้ามืดหรือเช้าตรู่เพื่อลดการสูญเสียกลิ่นหอม
  • ดอกสดสามารถนำไปกลั่นไอน้ำเพื่อผลิตน้ำมันหอมได้ ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 1–2% ของน้ำหนักดอกสด
  • น้ำมันหอมที่ได้มีกลิ่นฟลอรัลหวานมัน ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม สบู่ โลชั่น และอโรมาเธอราพี

ประโยชน์ของ ต้นกระดังงา

  1. ปลูกประดับและให้ร่มเงา – ทรงต้นสวย ดอกหอมแรง
  2. ใช้กลั่นน้ำมันหอมระเหย – เป็นวัตถุดิบหลักของน้ำหอมระดับโลก
  3. ใช้แต่งกลิ่นชาและขนม – ต้องเลือกดอกปลอดสารและใช้ในปริมาณน้อย
  4. ใช้ในอโรมาเธอราพี – กลิ่นช่วยผ่อนคลาย ลดความเครียด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ถาม: กระดังงาต้องการแสงแดดมากไหม?
ตอบ: ต้องการแสงแดดครึ่งวันถึงเต็มวัน ยิ่งได้รับแสงมาก ดอกจะดกและกลิ่นแรง

ถาม: ปลูกในกระถางได้ไหม?
ตอบ: ได้ ควรใช้กระถางขนาดใหญ่ ดินร่วนซุย และตัดแต่งให้พุ่มไม่สูงเกินไป

ถาม: เก็บดอกช่วงไหนน้ำมันหอมดีที่สุด?
ตอบ: ดอกบานเต็มที่ สีเหลืองนวล เก็บในช่วงเช้าจะให้กลิ่นเข้มข้นที่สุด

ถาม: กระดังงากับกระดังงาจีนต่างกันอย่างไร?
ตอบ: กระดังงาเป็นไม้ต้น ส่วนกระดังงาจีนเป็นไม้เถาเลื้อย แม้ดอกหอมคล้ายกันแต่เป็นคนละสกุล

บทสรุป

ต้นกระดังงาเป็นไม้หอมประจำถิ่นที่ให้ทั้งความสวยงามและคุณค่าทางเศรษฐกิจ
ปลูกง่าย โตไว ให้ดอกหอมแรง เหมาะสำหรับทั้งปลูกประดับบ้านและเพื่อการค้าผลิตน้ำมันหอมระเหย
หากได้รับแสงแดดเพียงพอ ดินร่วนชื้นแต่ไม่แฉะ และตัดแต่งสม่ำเสมอ จะให้ดอกงามและกลิ่นหอมสดชื่นตลอดปี

อ่านบทความดีๆกันแล้ว
แล้วอย่าลืม แอดไลน์ มาเป็นเพื่อนกัน เพื่อให้ท่านไม่พลาดข่าวสารและโปรโมชั่นดีๆจากทางร้าน

เพิ่มเพื่อน

error: Content is protected !!