Last Updated on มิถุนายน 5, 2025 by admin
ต้นพูนทรัพย์ หรือที่รู้จักกันในชื่อสามัญว่า กระบก, จะบก, ตระบก, มะลื่น, มะมื่น หรือ หลักปุย มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Irvingia malayana Oliv. ex A.W.Benn. จัดอยู่ในวงศ์ Irvingiaceae เป็นพรรณไม้ที่มีความสำคัญทั้งในเชิงเศรษฐกิจ นิเวศวิทยา และวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับต้นพูนทรัพย์อย่างละเอียด ตั้งแต่ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ การกระจายพันธุ์ ประโยชน์ สรรพคุณ ไปจนถึงความสำคัญในฐานะไม้มงคลนาม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของ ต้นพูนทรัพย์
เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบหรือกึ่งผลัดใบ มีความสูงได้ถึง 25-40 เมตร ลำต้นเปลาตรง เปลือกต้นค่อนข้างเรียบถึงแตกเป็นสะเก็ดเล็กน้อย สีเทาอมน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้ม เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ แตกกิ่งก้านสาขามาก
- ใบ: เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่แกมรูปขอบขนาน หรือรูปใบหอก กว้าง 3-8 ซม. ยาว 7-20 ซม. โคนใบมนหรือสอบ ปลายใบเรียวแหลมหรือเป็นติ่งแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ท้องใบสีอ่อนกว่า มีเส้นแขนงใบข้างละ 8-14 เส้น ก้านใบยาว 0.5-1.5 ซม.
- ดอก: ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนง (panicle) ตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ดอกมีขนาดเล็ก สีขาวอมเหลืองอ่อนหรือเขียวอ่อน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ขนาดเล็กมาก กลีบดอก 5 กลีบ รูปขอบขนาน ปลายมน เกสรเพศผู้ 10 อัน อับเรณูสีเหลือง รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ
- ผล: เป็นผลสดแบบมีเมล็ดเดียวแข็ง (drupe) รูปไข่ รูปไข่แกมขอบขนาน หรือค่อนข้างกลม ขนาดประมาณ 4-7 ซม. ผิวผลเรียบ ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้มหรือเหลือง เนื้อผลค่อนข้างหนา มีรสเปรี้ยวอมหวาน
- เมล็ด: มี 1 เมล็ดต่อผล เปลือกหุ้มเมล็ดแข็งมาก รูปไข่หรือรูปรี เนื้อในเมล็ด (kernel) มีสีขาวอัดแน่น อุดมไปด้วยน้ำมันและโปรตีน เป็นส่วนที่นิยมนำมารับประทาน
การแพร่กระจายและถิ่นอาศัยของ ต้นพูนทรัย์
ไม้ชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบได้ตั้งแต่ประเทศอินเดีย พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ในประเทศไทยพบได้ทั่วไปตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าเต็งรัง ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางไม่มากนัก สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินแทบทุกชนิด แต่ชอบดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดีและมีความชื้นปานกลาง
ความเชื่อและความหมายมงคลของ ต้นพูนทรัพย์
ชื่อ “พูนทรัพย์” ของต้นไม้ชนิดนี้ เป็นชื่อที่ถูกตั้งขึ้นภายหลังและมีความหมายเป็นมงคลอย่างยิ่ง ทำให้ได้รับความนิยมในการปลูกเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับบ้านเรือนและผู้คน ความเชื่อและความหมายมงคลของต้นพูนทรัพย์นั้นมีรากฐานมาจากตัวชื่อโดยตรง และเชื่อมโยงกับลักษณะอันแข็งแกร่งของต้นไม้ ดังนี้ครับ
- ความหมายจากชื่อโดยตรง:
- พูน (Poon): หมายถึง เพิ่มขึ้น, มากขึ้น, งอกงาม, ทวีคูณ
- ทรัพย์ (Sap): หมายถึง ทรัพย์สิน, เงินทอง, ของมีค่า, โภคทรัพย์
- เมื่อรวมกัน “พูนทรัพย์” จึงมีความหมายตรงตัวว่า “การเพิ่มพูนทรัพย์สิน” “ความมั่งคั่งร่ำรวย” “โภคทรัพย์ที่งอกงาม” หรือ “มีทรัพย์สินมากมาย” นี่คือหัวใจหลักของความเป็นมงคลของต้นไม้ชนิดนี้ ผู้คนเชื่อว่าการปลูกต้นพูนทรัพย์จะช่วยดึงดูดโชคลาภ เงินทอง และความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาสู่ผู้ปลูกและสถานที่นั้นๆ
- เสริมความมั่นคงและอุดมสมบูรณ์:
- ต้นพูนทรัพย์เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีลำต้นที่แข็งแรงและอายุยืนยาว ลักษณะดังกล่าวถูกตีความในเชิงมงคลว่าเป็นการเสริม “ความมั่นคง” ให้กับชีวิต ครอบครัว หรือธุรกิจ เปรียบเสมือนรากฐานที่แข็งแกร่งไม่สั่นคลอน
- การที่ต้นไม้เจริญเติบโตแตกกิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา และให้ผล (เมล็ดกระบก) ที่สามารถนำมารับประทานได้ ยังสื่อถึง “ความอุดมสมบูรณ์” และการมีกินมีใช้ไม่ขาดแคลน
- ดึงดูดพลังงานบวกและโชคลาภ:
- ตามความเชื่อด้านไม้มงคลของไทย การปลูกต้นไม้ที่มีชื่อและความหมายดีงามไว้ในบริเวณบ้านหรือที่ทำงาน จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดี ดึงดูดพลังงานบวก และนำพาโชคลาภเข้ามา
- ต้นพูนทรัพย์จึงถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นที่ดี การเติบโต และความสำเร็จในด้านการเงินและการงาน
- ความนิยมในการตั้งชื่อ:
- แม้ว่าชื่อดั้งเดิมที่คนทั่วไปรู้จักคือ “ต้นกระบก” แต่การนำชื่อ “พูนทรัพย์” มาใช้เรียกขานนั้นเป็นการเน้นย้ำถึงคุณสมบัติทางมงคล ทำให้ผู้คนสนใจและอยากปลูกมากขึ้น เพื่อหวังผลทางด้านความเชื่อและเสริมกำลังใจ
การนำไปใช้ในเชิงความเชื่อ
- นิยมปลูกไว้บริเวณหน้าบ้าน, ในสวน, หรือบริเวณที่ประกอบธุรกิจการค้า เพื่อหวังผลให้กิจการรุ่งเรือง มีกำไรเพิ่มพูน
- มอบเป็นของขวัญในโอกาสมงคลต่างๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการใหม่ เพื่อเป็นการอวยพรให้ผู้รับมีความเจริญก้าวหน้าและมั่งคั่ง
ประโยชน์และสรรพคุณ ของต้นพูนทรัพย์
- ด้านอาหาร:
- เมล็ด (กระบก): ส่วนที่สำคัญที่สุดและเป็นที่รู้จักกันดีคือ “เมล็ดกระบก” หรือ “อัลมอนด์เมืองไทย” เนื้อในเมล็ดมีรสมัน อุดมไปด้วยไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และวิตามิน นิยมนำมาคั่วหรืออบให้สุกก่อนรับประทานเป็นอาหารว่าง หรือใช้เป็นส่วนผสมในขนมหวาน อาหารคาวต่างๆ เช่น ส้มตำ (บางสูตร) น้ำพริก หรือใช้สกัดน้ำมันเพื่อการบริโภค
- เนื้อผลสุก: มีรสเปรี้ยวอมหวาน สามารถรับประทานสดได้ หรือนำไปแปรรูปเป็นแยม เยลลี่ หรือเครื่องดื่ม
- ด้านสมุนไพร (ตามภูมิปัญญาท้องถิ่น):
- เปลือกต้น: ใช้ต้มน้ำดื่ม แก้ท้องร่วง แก้บิด ขับพยาธิ หรือใช้ฝนทาแก้โรคผิวหนัง
- ใบ: ใช้ต้มน้ำอาบแก้ผดผื่นคัน หรือตำพอกแผล
- เนื้อในเมล็ด: มีฤทธิ์บำรุงกำลัง บำรุงไขข้อ บำรุงเส้นเอ็น
- น้ำมันจากเมล็ด: ใช้ทาถูนวด แก้ปวดเมื่อย หรือใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ หมายเหตุ: การใช้ประโยชน์ทางสมุนไพรควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้
- ด้านเนื้อไม้:
- เนื้อไม้กระบกมีความแข็งแรง ทนทานปานกลาง สามารถนำมาใช้ในงานก่อสร้างบ้านเรือน ทำเครื่องเรือน เครื่องมือเครื่องใช้ทางการเกษตร หรือเผาถ่านให้ความร้อนได้ดี
- เนื้อไม้กระบกมีความแข็งแรง ทนทานปานกลาง สามารถนำมาใช้ในงานก่อสร้างบ้านเรือน ทำเครื่องเรือน เครื่องมือเครื่องใช้ทางการเกษตร หรือเผาถ่านให้ความร้อนได้ดี
- ด้านนิเวศวิทยา:
- เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น นก กระรอก
- ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดิน ป้องกันการพังทลายของหน้าดิน
- เป็นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศป่าไม้
การปลูกและการดูแลรักษา
ต้นพูนทรัพย์สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ด ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมที่สุด เมล็ดมีเปลือกแข็ง ควรนำไปแช่น้ำหรือทำให้เปลือกบางลงก่อนเพาะเพื่อให้งอกได้เร็วขึ้น ต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเมล็ดจะเติบโตค่อนข้างช้าในช่วงแรก แต่เมื่อตั้งตัวได้แล้วจะเติบโตได้ดี
- การเตรียมดิน: ชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง
- แสงแดด: ต้องการแสงแดดเต็มวัน
- น้ำ: ต้องการน้ำปานกลาง ทนแล้งได้ดีเมื่อต้นโตเต็มที่แล้ว
- การบำรุงรักษา: ไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่มากนัก อาจมีการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักบ้างเป็นครั้งคราว
อ่านบทความดีๆกันแล้ว
แล้วอย่าลืม แอดไลน์ มาเป็นเพื่อนกัน เพื่อให้ท่านไม่พลาดข่าวสารและโปรโมชั่นดีๆจากทางร้าน