กรกฎาคม 27, 2024

Blog

วิธีปลูกผักกาดแก้ว ( ผักสลัดแก้ว ) แสนอร่อย ที่บ้าน

คลังบทความ
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

ผักกาดแก้ว หรือ ผักสลัดแก้ว เป็นผักที่มีถิ่นกำเนิดจากยุโรปและเอเชีย เป็นพืชล้มลุก มีใบสีเขียวอ่อน ลำต้นเป็นกอ ขอบใบหยักและบางกรอบม้วนห่อเป็นหัวแบบหลวมๆ มักนิยมปลูกใน ช่วงฤดูหนาว จัดเป็นผักอีก 1 ชนิดที่มีผู้นิยม
บริโภคเป็นจำนวนมาก นิยมกินสดๆ หรือ เป็นส่วนประกอบใน เมนูสลัดต่างๆ ถึงขนาดได้ชื่อว่าเป็น ราชาแห่งสลัด
ผักกาดแก้ว ยังมีประโยชน์มากมาย ชอบให้นอนหลับสบาย ต้านมะเร็ง รักษาโลหิตจาง แก้ท้องผูก
นอกจาก ผักกาดแก้วจะรสชาติกรอบอร่อย ถูกใจใครหลายๆคน และมีประโยชน์มากมายแล้ว ยังปลูกไว้กินเอง
หรือจำหน่ายไม่ยากอีกด้วยนะ

สิ่งที่ต้องเตรียมในการปลูกผักกาดแก้ว

1 เมล็ดพันธุ์ ผักกาดแก้ว ถ้าท่านไม่อยากเสียเวลา หรือเหนื่อยฟรี ขอให้เลือก ซื้อจากแหล่งที่มีน่าเชื่อถือมีคุณภาพ มีวันผลิตและวันหมดอายุ ระบุชัดเจน ไม่เก่าเก็บ เพราะจะทำให้เมล็ดงอกยาก ที่สำคัญต้องสะอาดปราศจาก การปนเปื้อน
ของเชื้อโรคเชื้อรา
2 ดินสำหรับปลูก จะผสมเองก็ได้ หากมีเวลา และสามารถหาส่วนผสมได้ สำหรับใครไม่มีเวลาไม่อยากวุ่นวาย ก็สามารถ ซื้อสำเร็จเอาจากร้านค้าเลยก็ได้ การเลือกสูตรดินปลูก ขอให้เลือกสูตรที่มีสารอาหารเพียงพอ มีความร่วนซุย
ไม่เหนียวแข็งจับตัวกันเป็นก้อน เพราะจะทำให้รากของต้นอ่อนเดินลำบาก
3 ถาดเพาะกล้าแบบที่เป็นหลุม

ขั้นตอนการปลูกผักกาดแก้ว

1 นำดินปลูกที่เตรียมไว้ เทลงใน ถาดเพาะกล้า แล้วรดน้ำให้ชุ่ม จาก นั้น หย่อนเมล็ดลงไปในหลุม
นำไปตั้งไว้รอการงอกของเมล็ดในที่ร่ม
2 พรมน้ำทุกวันเป็นประจำ จนเมล็ดมีการแตกรากสีขาวๆออกมา ก็ให้นำไปรับแสงแดดทันที
ถ้าหากท่านนำไปรับแสงช้า จะทำให้ต้นอ่อนยืดยาว และไม่แข็งแรง
3 หลังจากผ่านไป 5 วันท่านควรจะเริ่มเห็นใบของต้นอ่อนงอกขึ้นมา ข้อสำคัญคือ
อย่าลืมจัดวางถาดเพาะอยู่ที่จุดที่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอทุกวัน
4 หลังจากผ่านไป 15 วัน ก็ได้เวลาที่จะย้ายต้นกล้า ลงในแปลงปลูกได้เลย ( หรือหากท่าน ต้องการปลูกในกระถาง
ก็สามารถย้ายไปลงกระถางได้เช่นกัน )ก่อนย้ายต้นกล้า ควรรดน้ำ ให้ชุ่ม เพื่อให้ง่ายต่อการย้าย ข้อควรระวังคือ อย่าทำให้ รากของผักกาดแก้วขาดหรือเสียหายเด็ดขาด
5 หลังจากผ่านไป 20 วัน นับจากเริ่มเพาะเมล็ด ต้นผักกาดแก้ว มีใบ ได้ 3ใบ ท่านก็สามารถใส่ปุ๋ยรอบแรก
เพื่อเพิ่มสารอาหาร และเร่งการเจริญเติบโตได้ทันที ใช้เป็น ปุ๋ยคอกหรือ มูลไส้เดือนก็ได้
หลังจากให้ปุ๋ยแล้ว อย่าลืม รดน้ำตามให้ชุ่ม
6 การใส่ปุ๋ย สามารถทำได้ ทุกๆ 7-10 วัน หลังจากนี้
7 การให้สารอาหารเสริมอื่นๆ เช่น ฮอร์โมน หรือ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง หรือน้ำหมักสูตรต่างๆ
สามารถให้ได้ และควรให้ในช่วงเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่พืชสามารถรับสารอาหารทางใบได้ดีที่สุด
8 ผักกาดแก้ว มีระยะเวลาเก็บเกี่ยวประมาณ 60-80 วัน นับจากวันแรกที่เพาะเมล็ด

การปลูกผักกาดแก้ว ไว้กินเองในครัวเรือน นอกจากจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกด้วย หรือจะทำเป็นอาชีพเสริม ก็ขายได้แน่นอน เพราะผักชนิดนี้เป็นที่ต้องการอยู่เสมอ

อยากปลูกผักกาดแก้ว ได้ผลผลิตที่แข็งแรง ปลูกง่ายโตไว ต้องเริ่มต้น ที่เลือกใช้
เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ สั่งซื้อ เมล็ดพันธุ์ ผักกาดแก้วได้ที่นี่เลย

หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @luckyworm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ

เพิ่มเพื่อน

error: Content is protected !!