Last Updated on กุมภาพันธ์ 7, 2025 by admin
พืชใบเลี้ยงเดี่ยว (Monocotyledons หรือ Monocots) จัดเป็นกลุ่มพืชดอก (Angiosperms) ที่มีความหลากหลายและมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจโลก กลุ่มพืชนี้มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากพืชใบเลี้ยงคู่ (Dicotyledons หรือ Dicots) ซึ่งเป็นอีกกลุ่มใหญ่ของพืชดอก บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นทางการเกี่ยวกับพืชใบเลี้ยงเดี่ยว โดยครอบคลุมลักษณะสำคัญที่ใช้ในการจำแนก ความหลากหลาย และความสำคัญของพืชกลุ่มนี้
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์จำเพาะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวสามารถจำแนกออกจากพืชใบเลี้ยงคู่ได้จากลักษณะทางสัณฐานวิทยาและกายวิภาคที่เด่นชัดหลายประการ เช่น
- ใบเลี้ยง (Cotyledon): ลักษณะที่สำคัญที่สุดและเป็นที่มาของชื่อ “ใบเลี้ยงเดี่ยว” คือการมี ใบเลี้ยงเพียงใบเดียว ในระยะเอ็มบริโอของเมล็ด. ในขณะที่พืชใบเลี้ยงคู่จะมีใบเลี้ยงสองใบ ลักษณะนี้เป็นผลมาจากการพัฒนาของเอ็มบริโอและโครงสร้างภายในเมล็ดที่แตกต่างกัน
- เส้นใบ (Leaf Venation): ลักษณะเส้นใบของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวส่วนใหญ่เป็นแบบ เส้นใบขนาน (Parallel venation) . เส้นใบจะเรียงตัวขนานกันไปตามความยาวของใบ จากโคนใบไปสู่ปลายใบ ลักษณะนี้แตกต่างจากพืชใบเลี้ยงคู่ซึ่งส่วนใหญ่มีเส้นใบแบบร่างแห (Reticulate venation) ที่เส้นใบแตกแขนงเป็นร่างแหทั่วทั้งแผ่นใบ อย่างไรก็ตาม มีพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิดที่มีเส้นใบไม่เป็นไปตามแบบเส้นใบขนานอย่างชัดเจน แต่ลักษณะเด่นโดยรวมยังคงเป็นเส้นใบขนาน
- ระบบราก (Root System): พืชใบเลี้ยงเดี่ยวมีระบบรากที่เป็นแบบ ระบบรากฝอย (Fibrous root system) . ระบบรากฝอยประกอบด้วยรากขนาดเล็กจำนวนมากที่แตกแขนงออกจากโคนต้นและแผ่กระจายไปในดิน รากแก้ว (Taproot) ซึ่งเป็นรากหลักที่เจริญลงในแนวดิ่งจะไม่ปรากฏเด่นชัดเหมือนในพืชใบเลี้ยงคู่ ระบบรากฝอยช่วยให้พืชใบเลี้ยงเดี่ยวสามารถยึดเกาะดินได้ดีในพื้นที่ที่มีลมแรง และมีประสิทธิภาพในการดูดซับน้ำและธาตุอาหารจากผิวดิน
- การจัดเรียงท่อลำเลียงในลำต้น (Vascular Bundles in Stem): เมื่อพิจารณาภาคตัดขวางของลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว จะพบว่าท่อลำเลียง (Vascular bundles) ซึ่งประกอบด้วยไซเล็ม (Xylem) และโฟลเอ็ม (Phloem) กระจายตัวอย่างไม่เป็นระเบียบทั่วลำต้น (Scattered vascular bundles) . ลักษณะนี้แตกต่างจากพืชใบเลี้ยงคู่ที่ท่อลำเลียงจะเรียงตัวเป็นวงรอบลำต้น
- ส่วนประกอบของดอก (Floral Parts): ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่งของดอกพืชใบเลี้ยงเดี่ยวคือ จำนวนส่วนประกอบต่างๆ ของดอกมักจะเป็นเลข 3 หรือทวีคูณของเลข 3 ส่วนประกอบที่กล่าวถึงนี้ ได้แก่ กลีบดอก , กลีบเลี้ยง เกสรตัวผู้ , และเกสรตัวเมีย ตัวอย่างเช่น ดอกพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมักจะมีกลีบดอก 3 กลีบ, 6 กลีบ, หรือ 9 กลีบ เป็นต้น ในขณะที่ดอกของพืชใบเลี้ยงคู่ ส่วนใหญ่มักจะมีจำนวนส่วนประกอบของดอกเป็นเลข 4 หรือ 5
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวมีอะไรบ้าง ?
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวมีความหลากหลายสูง โดยมีประมาณ 67,000 ชนิดทั่วโลก วงศ์ที่มีจำนวนชนิดมากที่สุดคือวงศ์กล้วยไม้ (Orchidaceae) ซึ่งมีประมาณ 20,000 ถึง 25,000 ชนิด รองลงมาคือวงศ์หญ้า (Poaceae) ที่มีมากกว่า 9,000 ชนิด ตัวอย่างวงศ์เด่นๆ ก็อย่างเช่น
- วงศ์หญ้า (Poaceae หรือ Gramineae): วงศ์หญ้านับเป็นวงศ์พืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจสูงสุด. พืชในวงศ์นี้เป็นแหล่งอาหารหลักของประชากรโลกและปศุสัตว์ ลักษณะเด่นของวงศ์หญ้าคือ ลำต้นกลวงเป็นข้อปล้อง ใบเรียงสลับ มีกาบใบหุ้มข้อ ดอกแบบช่อเชิงลด (spikelet) และผลเป็นแบบเมล็ดธัญพืช
- วงศ์กล้วยไม้ (Orchidaceae): วงศ์กล้วยไม้นับเป็นวงศ์พืชดอกที่มีความหลากหลายของชนิดพันธุ์มากที่สุดวงศ์หนึ่ง. กล้วยไม้มีชื่อเสียงจากดอกที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ รูปทรงหลากหลาย สีสันสดใส และมีกลิ่นหอม. กล้วยไม้หลายชนิดมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงในฐานะไม้ประดับ และบางชนิดมีประโยชน์ทางยาและเครื่องเทศ
- วงศ์ปาล์ม (Arecaceae หรือ Palmae): วงศ์ปาล์มเป็นวงศ์พืชที่มีลักษณะเด่นคือ ลำต้นสูงตรง ไม่มีการแตกกิ่งก้าน มีใบขนาดใหญ่แบบขนนกหรือใบพัด. ปาล์มมีความสำคัญทางเศรษฐกิจในด้านอาหาร น้ำมัน เส้นใย วัสดุก่อสร้าง และไม้ประดับ
- วงศ์ลิลลี่ (Liliaceae): วงศ์ลิลลี่เป็นวงศ์พืชดอกที่มีความสวยงามและมักมีกลิ่นหอม. ดอกมีลักษณะเป็นดอกช่อหรือดอกเดี่ยว กลีบดอกและกลีบเลี้ยงมีลักษณะคล้ายกัน (tepals) จำนวน 6 กลีบ
- วงศ์ขิง (Zingiberaceae): วงศ์ขิงเป็นวงศ์พืชที่มีลักษณะเด่นคือ มีเหง้าใต้ดิน ใบเรียงสลับซ้อนทับกัน ดอกมีลักษณะเป็นช่อ และมักมีกลิ่นหอม. พืชในวงศ์นี้ส่วนใหญ่ใช้เป็นเครื่องเทศ สมุนไพร และไม้ประดับ
พืชใบเลี้ยงเดี่ยว พืชใบเลี้ยงคู่ต่างกันอย่างไร

อ่านบทความดีๆกันแล้ว
แล้วอย่าลืม แอดไลน์ มาเป็นเพื่อนกัน เพื่อให้ท่านไม่พลาดข่าวสารและโปรโมชั่นดีๆจากทางร้าน