มีนาคม 22, 2025

Blog

หญ้าญี่ปุ่น ลงทุนครั้งเดียว สนามหญ้าสวยยาวนาน ไม่ต้องดูแลเยอะ

คลังบทความ
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

Last Updated on กุมภาพันธ์ 21, 2025 by admin

ในบรรดาหญ้าปูสนามที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ” หญ้าญี่ปุ่น ” หรือที่รู้จักในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zoysia japonica โดดเด่นในฐานะตัวเลือกที่สวยงาม ทนทาน และต้องการการดูแลรักษาน้อย ด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย ทำให้หญ้าญี่ปุ่นกลายเป็นหญ้ายอดนิยมสำหรับจัดสวน ตกแต่งภูมิทัศน์ ทั้งบ้านพักอาศัย สนามกอล์ฟ และพื้นที่สาธารณะต่างๆ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของหญ้าญี่ปุ่น ตั้งแต่ลักษณะเด่น ข้อดีข้อเสีย วิธีปลูก การดูแลรักษา ไปจนถึงการนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถเลือกใช้หญ้าญี่ปุ่นได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการ

ทำความรู้จัก กับ หญ้าญี่ปุ่น

หญ้าญี่ปุ่นมีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน เป็นหญ้าในวงศ์ Poaceae มีลักษณะเด่นคือ ใบละเอียดเล็กสีเขียวเข้ม เมื่อขึ้นหนาแน่นจะ ให้พื้นผิวที่เรียบเนียนคล้ายพรม จึงเป็นที่ชื่นชอบในด้านความสวยงาม นอกจากนี้ หญ้าญี่ปุ่นยังเป็นหญ้าที่ เจริญเติบโตช้า ทำให้ไม่ต้องตัดบ่อย และมี ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม หลายประการ

ลักษณะเด่นของ หญ้าญี่ปุ่น

  • ใบละเอียด: ใบมีขนาดเล็กและละเอียด ทำให้พื้นผิวสนามหญ้าดูเรียบเนียนสวยงาม
  • สีเขียวเข้ม: มีสีเขียวเข้มสวยงามตลอดทั้งปี (ในสภาพอากาศที่เหมาะสม)
  • เจริญเติบโตช้า: ลดความถี่ในการตัดหญ้า ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
  • ทนทานต่อการเหยียบย่ำ: สามารถทนต่อการใช้งานในพื้นที่ที่มีการสัญจร หรือการทำกิจกรรมต่างๆ บนสนามหญ้าได้ดี
  • ทนทานต่อความแห้งแล้ง: สามารถทนทานต่อสภาพอากาศแห้งแล้งได้ดีกว่าหญ้าบางชนิด ทำให้ประหยัดน้ำในการดูแล
  • ทนทานต่อโรคและแมลง: มีความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืชได้ดี ทำให้ลดการใช้สารเคมี
  • ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี: สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินและแสงแดดหลากหลาย

หญ้าญี่ปุ่น ข้อดี ข้อเสีย

ข้อดี:

  • ความสวยงาม: ให้สนามหญ้าที่สวยงาม เรียบเนียน คล้ายพรม
  • การดูแลรักษาง่าย: ต้องการการดูแลรักษาน้อยกว่าหญ้าหลายชนิด เช่น ไม่ต้องตัดบ่อย ทนทานต่อความแห้งแล้ง และโรคแมลง
  • ความทนทาน: ทนทานต่อการเหยียบย่ำ และสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย
  • อายุยืนยาว: หากดูแลรักษาอย่างเหมาะสม หญ้าญี่ปุ่นสามารถมีอายุยืนยาวได้หลายปี

ข้อเสีย:

  • เจริญเติบโตช้า: ข้อดีที่ว่าไม่ต้องตัดบ่อย ก็เป็นข้อเสียในแง่ของการฟื้นตัวเมื่อเกิดความเสียหาย หรือการขยายพันธุ์ที่ช้ากว่าหญ้าบางชนิด
  • ราคาค่อนข้างสูง: เมื่อเทียบกับหญ้าปูสนามบางชนิด หญ้าญี่ปุ่นอาจมีราคาสูงกว่า
  • อาจเกิดปัญหาเรื่อง “แฝก” (Thatch): เนื่องจากเจริญเติบโตช้า และมีลำต้นใต้ดินหนาแน่น อาจเกิดการสะสมของเศษหญ้าแห้ง (Thatch) ซึ่งอาจต้องมีการจัดการบ้าง

การนำ หญ้าญี่ปุ่น ไปใช้งานในประเทศไทย

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น หญ้าญี่ปุ่นจึงถูกนำไปใช้อย่างหลากหลายในประเทศไทย เช่น:

  • สนามหญ้าบ้านพักอาศัย: นิยมใช้จัดสวนหน้าบ้าน สนามหลังบ้าน เพื่อให้ได้สนามหญ้าที่สวยงามและดูแลรักษาง่าย
  • สนามกอล์ฟ: ใช้ในบริเวณ Tee-off และ Fairway เนื่องจากทนทานต่อการเหยียบย่ำ และให้พื้นผิวที่เรียบเนียน
  • สวนสาธารณะและพื้นที่พักผ่อน: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความสวยงามและทนทานต่อการใช้งาน
  • จัดสวนแนวตั้ง (Vertical Garden): ด้วยใบที่ละเอียดและเจริญเติบโตช้า ทำให้หญ้าญี่ปุ่นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสวนแนวตั้งได้
  • ตกแต่งภูมิทัศน์อาคารสำนักงานและโรงแรม: สร้างบรรยากาศที่สวยงามและร่มรื่นให้กับอาคารสถานที่

หญ้าญี่ปุ่น ดูแลอย่างไร?

การปลูก:

  • เตรียมดิน: ปรับปรุงสภาพดินให้ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี หากดินไม่ดี ควรผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก
  • วิธีการปลูก: นิยมปลูก 2 วิธีหลัก คือ
    • ปูแผ่นหญ้า: เป็นวิธีที่รวดเร็วและเห็นผลลัพธ์ทันที โดยนำแผ่นหญ้าญี่ปุ่นมาปูให้ชิดกัน
    • ปลูกด้วยท่อนพันธุ์: ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า แต่ต้องใช้เวลาให้หญ้าเจริญเติบโตคลุมพื้นที่ โดยนำท่อนพันธุ์หญ้าญี่ปุ่นมาปักลงดินให้มีระยะห่างพอสมควร
  • การให้น้ำครั้งแรก: หลังปลูก ควรรดน้ำให้ชุ่มทันที และรดน้ำสม่ำเสมอในช่วงแรก เพื่อให้หญ้าตั้งตัวได้ดี

การดูแลรักษา:

  • การให้น้ำ: ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง แต่ระวังอย่าให้น้ำขัง ควรรดน้ำในช่วงเช้า เพื่อให้ใบหญ้าแห้งทันก่อนค่ำ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเชื้อรา
  • การใส่ปุ๋ย: ควรใส่ปุ๋ยบำรุงสนามหญ้าอย่างสม่ำเสมอ เช่น ปุ๋ยสูตรเสมอ (15-15-15 หรือ 16-16-16) หรือปุ๋ยอินทรีย์ ควรใส่ปุ๋ยปีละ 2-3 ครั้ง
  • การตัดหญ้า: เนื่องจากหญ้าญี่ปุ่นเจริญเติบโตช้า จึงไม่จำเป็นต้องตัดบ่อย โดยทั่วไปตัดเดือนละ 1-2 ครั้ง ควรตัดให้มีความสูงประมาณ 1-2 นิ้ว
  • การกำจัดวัชพืช: ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ โดยการถอนด้วยมือ หรือใช้สารกำจัดวัชพืชที่เหมาะสม
  • การพรวนดินและเติมทราย: ปีละครั้ง ควรพรวนดินเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี และเติมทรายหยาบเพื่อปรับปรุงโครงสร้างดิน และลดปัญหาเรื่อง “แฝก”

หญ้าญี่ปุ่น ราคา เท่าไหร่?

  • ราคาต่อตารางเมตร (ตร.ม.): โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 50 – 150 บาทต่อตารางเมตร

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาหญ้าญี่ปุ่น:

  1. คุณภาพและเกรดของหญ้า:
    • เกรด A (พรีเมียม): หญ้าญี่ปุ่นที่มีคุณภาพสูง ใบละเอียด สีเขียวเข้ม สม่ำเสมอ ปลูกหนาแน่น และดูแลมาอย่างดี จะมีราคาสูงกว่า
    • เกรดทั่วไป: หญ้าญี่ปุ่นเกรดมาตรฐานทั่วไป อาจมีใบหญ้าที่ขนาดไม่สม่ำเสมอ หรือสีเขียวไม่เข้มเท่าเกรดพรีเมียม ราคาก็จะถูกลงมา
    • เกรดรอง: หญ้าญี่ปุ่นเกรดนี้อาจมีตำหนิบ้าง เช่น สีไม่สม่ำเสมอ หรือมีวัชพืชปะปน ราคาจะถูกที่สุด
  2. ปริมาณการสั่งซื้อ:
    • สั่งซื้อจำนวนมาก: หากสั่งซื้อในปริมาณมาก (เช่น สำหรับโครงการจัดสวนขนาดใหญ่ หรือสนามกอล์ฟ) อาจได้รับส่วนลดราคาพิเศษจากผู้ขาย
    • สั่งซื้อจำนวนน้อย: หากซื้อในปริมาณน้อย (เช่น สำหรับสวนหน้าบ้านขนาดเล็ก) ราคาต่อตารางเมตรอาจสูงกว่า

ราคาโดยประมาณ

  • หญ้าญี่ปุ่นเกรดทั่วไป (ซื้อจำนวนน้อย): 80 – 120 บาท/ตร.ม.
  • หญ้าญี่ปุ่นเกรดพรีเมียม (ซื้อจำนวนน้อย): 120 – 150 บาท/ตร.ม.
  • หญ้าญี่ปุ่นเกรดทั่วไป (ซื้อจำนวนมาก): 50 – 80 บาท/ตร.ม. (อาจได้ส่วนลดมากกว่านี้)

คำแนะนำในก่อนการซื้อหญ้าญี่ปุ่น:

  • สำรวจราคา: ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรสำรวจราคาจากหลายๆ แหล่ง ทั้งร้านขายหญ้าโดยตรง ร้านต้นไม้ และตลาดต้นไม้ เพื่อเปรียบเทียบราคาและคุณภาพ
  • ตรวจสอบคุณภาพ: ควรไปดูหญ้าด้วยตัวเอง หรือขอรูปภาพจากผู้ขาย เพื่อตรวจสอบคุณภาพของหญ้า ดูว่าใบละเอียด สีเขียวสม่ำเสมอ และไม่มีวัชพืชปะปน
  • สอบถามค่าขนส่ง: สอบถามค่าขนส่งให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะหากสั่งซื้อในปริมาณมาก หรือระยะทางไกล

หญ้าญี่ปุ่น เป็นหญ้าปูสนามที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นด้านความสวยงาม ความทนทาน และการดูแลรักษาง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสนามหญ้าที่สวยงามและต้องการการดูแลที่ไม่ยุ่งยาก หากคุณกำลังมองหาหญ้าปูสนามสำหรับบ้าน สวน หรือโครงการต่างๆ หญ้าญี่ปุ่นก็เป็นอีก 1ตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าอย่างแน่นอน

อ่านบทความดีๆกันแล้ว
แล้วอย่าลืม แอดไลน์ มาเป็นเพื่อนกัน เพื่อให้ท่านไม่พลาดข่าวสารและโปรโมชั่นดีๆจากทางร้าน

เพิ่มเพื่อน

error: Content is protected !!