Last Updated on มกราคม 22, 2025 by admin
หญ้าตีนกา หรือที่รู้จักกันในชื่ออื่นๆ เช่น หญ้าปากควาย หญ้าดะ เป็นวัชพืชที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่เขตร้อนชื้น หญ้าตีนกามีอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว แข็งแรงทนทาน และขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถแพร่กระจายและครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อผลผลิตและคุณภาพของพืชเศรษฐกิจหลายชนิด เป็นวัชพืชที่พบได้ทั่วไปในพื้นที่เกษตรกรรมและบริเวณที่รกร้างทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย การทำความเข้าใจลักษณะทางพฤกษศาสตร์ การแพร่พันธุ์ และวิธีการกำจัดหญ้าตีนกา จะช่วยให้เกษตรกร สามารถจัดการกับวัชพืชชนิดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
หญ้าตีนกาเป็นพืชล้มลุก อายุปีเดียว มีลำต้นตั้งตรงหรือทอดราบไปตามพื้นดิน ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขาจำนวนมาก ทำให้เกิดเป็นพุ่มหนาแน่น ใบมีลักษณะเรียวยาว ปลายใบแหลม โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ช่อดอกเป็นช่อแยกแขนง ออกที่ปลายยอด มีลักษณะคล้ายนิ้วมือหลายนิ้วเรียงกัน ดอกย่อยมีขนาดเล็ก สีน้ำตาลอมเหลือง ผลมีขนาดเล็ก รูปไข่ สีน้ำตาลเข้ม เมล็ดมีขนาดเล็กมาก จำนวนมาก และสามารถคงอยู่ในดินได้นานหลายปี
ลำต้น: ลำต้นมีความสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร แตกกอและทอดนอนกับพื้นดินก่อนที่จะตั้งตรงขึ้น
ใบ: ใบมีลักษณะแบนและยาว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบหรือมีขนเล็กน้อย ใบมีสีเขียวสดและมักมีเส้นกลางใบที่เด่นชัด
ช่อดอก: ช่อดอกเป็นแบบช่อเชิงลด ประกอบด้วยช่อย่อยที่เรียงตัวเป็นรูปนิ้วมือ โดยทั่วไปมี 2-6 ช่อย่อยต่อช่อดอก แต่ละช่อย่อยมีดอกย่อยจำนวนมาก
เมล็ด: เมล็ดมีขนาดเล็ก รูปไข่หรือรูปรี มีสีขาวหรือสีน้ำตาลอ่อน
การแพร่พันธุ์
หญ้าตีนกาเป็นพืชที่มีความสามารถในการแพร่พันธุ์สูง โดยอาศัยเมล็ดเป็นหลัก เมล็ดสามารถงอกได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย และพืชสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ นอกจากนี้ หญ้าตีนกายังสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งและมีความร้อนสูงได้
การแพร่กระจายของเมล็ดหญ้ามักเกิดขึ้นผ่านทางลม น้ำ สัตว์ และกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเคลื่อนย้ายดินหรือเครื่องมือการเกษตรที่มีเมล็ดติดอยู่ เมล็ดที่ตกลงบนดินสามารถงอกและเจริญเติบโตเป็นพืชใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้หญ้าตีนกากลายเป็นวัชพืชที่ยากต่อการควบคุมในพื้นที่การเกษตร
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
หญ้าตีนกาสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย แต่จะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง อุณหภูมิอบอุ่น และแสงแดดจัด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรบกวนดินบ่อยครั้ง เช่น พื้นที่เพาะปลูกที่ถูกไถพรวนบ่อยครั้ง หรือพื้นที่ที่มีการปลูกพืชหมุนเวียนไม่เหมาะสม
ผลกระทบต่อพืชเศรษฐกิจ
แข่งขันแย่งน้ำ แย่งอาหาร: ด้วยการแย่งน้ำ แย่งอาหาร และแสงแดดจากพืชเศรษฐกิจ ทำให้พืชเศรษฐกิจเจริญเติบโตช้า ผลผลิตต่ำ และคุณภาพต่ำ
เป็นแหล่งอาศัยของศัตรูพืช: เช่นแมลง ศัตรูพืช และเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งอาจแพร่กระจายไปยังพืชเศรษฐกิจได้
สารเคมีที่นิยมใช้ในการกำจัด
1 ไกลไฟโฟเซต (Glyphosate): เป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์แบบไม่เลือกชนิดพืช สามารถใช้กำจัดทั้งหญ้าและพืชใบกว้างได้
2 บิวทาคลอร์ (Butachlor): เป็นสารเคมีที่ใช้ก่อนการปลูกพืช เพื่อป้องกันการงอกของเมล็ดหญ้า
3 ควินคลอแรค (Quinclorac): เป็นสารเคมีที่ใช้หลังการงอกของหญ้า โดยจะออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของหญ้า
ข้อควรระวังในการใช้สารเคมีกำจัด
การดื้อยา : มีรายงานว่าวัชพืชชนิดนี้ในบางพื้นที่ของประเทศไทยเริ่มแสดงความต้านทานต่อสารกำจัดวัชพืชในกลุ่ม Aryloxyphenoxy-propionate ดังนั้น ควรสลับการใช้สารเคมีต่างกลุ่มหรือใช้วิธีการควบคุมวัชพืชแบบผสมผสานเพื่อป้องกันการพัฒนาความต้านทาน
การปฏิบัติตามคำแนะนำ: ควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากของสารเคมีอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม
การใช้วิธีการควบคุมแบบผสมผสาน: นอกจากการใช้สารเคมีแล้ว ควรใช้วิธีการควบคุมวัชพืชอื่น ๆ ร่วมด้วย
การจัดการโดยวิธีทางกล
นอกจากการใช้สารเคมีแล้ว การจัดการวัชพืชชนิดนี้ยังสามารถทำได้โดยวิธีทางกล เช่น การไถพรวน การพรวนดิน การถอน และการตัด ซึ่งเป็นวิธีการที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการใช้สารเคมี แต่ต้องใช้แรงงานและเวลาในการทำงานค่อนข้างมาก
หญ้าตีนกาเป็นวัชพืชที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก การจัดการอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดผลกระทบต่อผลผลิตและคุณภาพของพืชเศรษฐกิจ การเลือกใช้วิธีการจัดการที่เหมาะสมจะช่วยลดปัญหาการระบาดของวัชพืชชนิดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กำลังมองหา สารกำจัดวัชพืช อยู่รึเปล่าคะ? สั่งซื้อได้ที่นี่เลย
สินค้าทุกรายการ ขึ้นทะเบียนถูกต้อง ทางร้านมีใบอนุญาติจำหน่ายถูกต้องตามกฎหมายค่ะ
หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @260afyhm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ