Last Updated on มกราคม 24, 2025 by admin
แมลงบั่ว (rice gall midge)เป็นศัตรูพืขในข้าว ที่สำคัญชนิดหนึ่ง ตัวเต็มวัยมีลักษณะคล้ายยุง หรือ ริ้น ยาวประมาณ 3-4 มม หนวดและขามีสีดำ ชอบบินหาเข้าแสงไฟ ตัวผู้ลำตัวจะมีสีน้ำตาลปนเหลืองแต่มีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย
ช่วงกลางวัน มักจะเกาะอยู่บริเวณใต้ใบข้าว หรือ กอข้าวเพื่อซ่อนตัว และจะบินไปหาที่ๆมีแสงไฟ
เพื่อผสมพันธุ์ในช่วงเวลากลางคืน
ลักษณะของ แมลงบั่ว
แมลงบั่วเป็นแมลงขนาดเล็กมาก โดยทั่วไปมีความยาวเพียง 2-3 มิลลิเมตร แต่บางชนิดอาจยาวถึง 8 มิลลิเมตร
- ขนาดเล็ก: ตัวเต็มวัยมีขนาดเล็ก บอบบาง และมักถูกมองข้ามได้ง่าย
- ปีก: มีปีกคู่หนึ่ง มีขนตามขอบปีก
- หนวด: มีหนวดยาว มีจำนวนปล้องแตกต่างกันไปในแต่ละชนิด
- ลำตัว: มีสีแตกต่างกันไปในแต่ละชนิด เช่น น้ำตาล เหลือง ส้ม หรือดำ
- ตัวอ่อน (หนอน): มีลักษณะคล้ายหนอนแมลงวัน หัวท้ายเรียว ไม่มีขา มีสีขาว เหลือง หรือส้ม อาศัยและกินอยู่ภายในเนื้อเยื่อพืช ทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น ปม บวม หรือบิดเบี้ยว
วงจรชีวิตของแมลงบั่ว
วงจรชีวิตของแมลงบั่วประกอบด้วย 4 ระยะ ได้แก่ ไข่ หนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย
- ระยะไข่: ตัวเมียวางไข่บนพืชอาหาร มักวางไข่ในบริเวณเนื้อเยื่ออ่อน เช่น ยอดอ่อน ใบอ่อน หรือดอก ไข่มีขนาดเล็กมาก มองเห็นได้ยาก
- ระยะหนอน: เมื่อไข่ฟักออกเป็นหนอน หนอนจะเจาะเข้าไปในเนื้อเยื่อพืชและกินอยู่ภายใน ทำให้เกิดอาการผิดปกติกับพืช เช่น การสร้างปม (gall) หนอนมีการลอกคราบหลายครั้งก่อนที่จะเข้าสู่ระยะดักแด้ ระยะหนอนเป็นระยะที่สร้างความเสียหายให้กับพืชมากที่สุด
- ระยะดักแด้: หนอนจะเข้าดักแด้ภายในปมหรือในดิน ระยะดักแด้เป็นระยะพักตัว ก่อนที่จะกลายเป็นตัวเต็มวัย
- ระยะตัวเต็มวัย: ตัวเต็มวัยจะออกจากดักแด้และผสมพันธุ์ ตัวเต็มวัยมีอายุสั้น โดยมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่วัน
วงจรชีวิตของแมลงบั่วมีความผันแปรขึ้นอยู่กับชนิดของแมลงบั่ว สภาพอากาศ และพืชอาหาร บางชนิดมีวงจรชีวิตสั้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ ในขณะที่บางชนิดอาจมีวงจรชีวิตนานหลายเดือน
การเข้าทำลายของแมลงบั่ว
แมลงบั่วเข้าทำลายพืชโดยตัวอ่อน (หนอน) ที่กินและอาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อพืช ลักษณะการเข้าทำลายที่พบ ได้แก่:
- การสร้างปม (gall): เป็นลักษณะการทำลายที่พบได้บ่อยที่สุด หนอนจะกระตุ้นให้พืชสร้างเนื้อเยื่อที่ผิดปกติขึ้นมาห่อหุ้มตัวหนอน ทำให้เกิดเป็นปมหรือบวมพองบนส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ใบ กิ่ง ก้าน หรือดอก ปมเหล่านี้มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของแมลงบั่วและพืชอาหาร
- การทำลายยอดอ่อน: หนอนจะเจาะเข้าไปกินยอดอ่อนของพืช ทำให้ยอดอ่อนไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ หรือเกิดอาการบิดเบี้ยว แคระแกร็น
- การทำลายดอกและผล: หนอนบางชนิดจะเข้าทำลายดอกหรือผล ทำให้ดอกไม่บาน หรือผลบิดเบี้ยว เสียหาย
พืชที่ถูกแมลงบั่วเข้าทำลายจะแสดงอาการต่างๆ เช่น:
ดอกไม่บาน หรือผลบิดเบี้ยว เสียหาย: ส่งผลกระทบต่อผลผลิต
ปมหรือบวมพอง: บนใบ กิ่ง ก้าน หรือดอก
ยอดอ่อนบิดเบี้ยว แคระแกร็น: ทำให้การเจริญเติบโตของพืชชะงัก
แนวทางการป้องกันกำจัด
1 หมั่นกำจัดวัชพืชรอบๆแปลงนา เช่น ข้าวป่า หญ้าข้าวนก หญ้าไซ หญ้าแดง หญ้าชันกาด หญ้านกสีชมพู
ซึ่งอาจเป็นที่อยู่อาศัย และแหล่งอาหาร ของแมลงบั่ว
2 ไม่ควรปลูกข้าวหนาแน่นจนเกินไป แต่ควรปลูกให้มีระยะห่างให้แสงส่องโคนต้นได้
3 หมั่นสำรวจแปลงนา หากพบ แมลงชนิดนี้ ในจำนวนไม่มาก ให้ ถอนต้น ที่เป็นหลอดออกจาก แปลง
แล้วนำไปเผาทำลายทิ้งทันที
4 ใช้กับดักแสงไฟล่อตัวเต็มวัยเพื่อทำลาย
5 หากพบหลอดบั่วในแปลงข้าว 5 % ก็ควรจะมีเริ่มฉีดสารกำจัดแมลง เพื่อป้องกันการระบาด
6 หากพื้นที่ปลูกข้าว พบการระบาด ของแมลงศัตรูพืชชนิดนี้อยู่เป็นประจำ หรือนาที่อยู่ติดกันเกิดการระบาด
ควรมีการฉีดสารกำจัดแมลงป้องกัน เมื่อต้นข้าวมีอายุ ได้ 20-30 วัน
สารเคมีที่นิยมใช้กำจัดแมลงบั่ว
- กลุ่ม 1 (คาร์บาเมต และ ออร์กาโนฟอสเฟต): เช่น เบนฟูราคาร์บ ไตรอะโซฟอส
- กลุ่ม 2 (ออร์กาโนคลอรีน และ ไพรีทรอยด์สังเคราะห์): เช่น ฟิโพรนิล อีทิโพรล
- กลุ่ม 4 (นีโอนิโคตินอยด์): เช่น อิมิดาคลอพริด ไทอะมีทอกแซม อะเซทามิพริด โคลไทอะนิดิน
- กลุ่ม 28 (ไดอะไมด์): เช่น ฟลูเบนไดอะไมด์ คลอแรนทรานิลิโพรล
กำลังมองหา ตัวช่วยดีๆ ในการกำจัดแมลงบั่วอยู่รึเปล่า? สั่งซื้อได้ที่นี่เลย
ที่ร้าน lucky worm เรามีทั้ง ชีวภัณฑ์ ออแกนิค ที่ใช้กำจัดแมลงศัตรูพืช และสารเคมีที่ใช้กำจัดแมลง
เรามีใบอนุญาติขาย เคมีเกษตร ถูกต้องตามกฎหมาย ออกโดย กรมวิชาการเกษตร
หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @luckyworm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ