Last Updated on กุมภาพันธ์ 28, 2025 by admin
โพรฟีโนฟอส เป็นสารกำจัดแมลงในกลุ่ม ออร์กาโนฟอสเฟต ที่มีฤทธิ์ ไม่ดูดซึม แต่สามารถกำจัดแมลงได้หลากหลายชนิด ทั้งแมลงปากกัดและแมลงปากดูด ด้วยประสิทธิภาพในการกำจัดแมลงที่รวดเร็วและราคาที่ไม่แพง ทำให้สารนี้ยังคงเป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับเกษตรกรในการควบคุมศัตรูพืช
โพรฟีโนฟอส คือ
มีชื่อทางเคมีคือ O-(4-bromo-2-chlorophenyl) O-ethyl S-propyl phosphorothioate จัดอยู่ในกลุ่มสารกำจัดแมลง ออร์กาโนฟอสเฟต ซึ่งเป็นกลุ่มสารเคมีกำจัดแมลงที่มีฤทธิ์กว้างขวางและใช้กันมานานในการเกษตร
- ลักษณะทางกายภาพ: โพรฟีโนฟอสบริสุทธิ์มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี ถึงสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว ผลิตภัณฑ์ทางการค้าส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปของเหลวใสสีเหลืองอ่อนเช่นกัน
- การใช้งาน: โพรฟีโนฟอสใช้เป็นสารกำจัดแมลงสำหรับพืชไร่ พืชผัก ไม้ผล และไม้ดอกไม้ประดับ สามารถกำจัดแมลงได้หลากหลายชนิด ทั้งแมลงปากกัดและแมลงปากดูด เช่น หนอนกระทู้ หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนใยผัก ด้วง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยจักจั่น ไร เป็นต้น
โพรฟีโนฟอส คุณสมบัติ
- กลุ่มสาร: อยู่ในกลุ่มออร์แกโนฟอสเฟต ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ในระบบประสาทของแมลง
- ความเข้มข้น: สารมักมีรูปแบบผลิตภัณฑ์ในระดับความเข้มข้นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานและชนิดของพืชที่ต้องการควบคุมศัตรูพืช
- การละลายน้ำ: มีความสามารถในการละลายน้ำในระดับปานกลาง ทำให้สามารถผสมกับน้ำตามอัตราที่แนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย
- ความคงทน: มีความคงทนในสภาพแวดล้อมปานกลาง โดยส่วนมากจะสลายตัวในดินได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งช่วยลดปัญหาการตกค้างในสิ่งแวดล้อม
กลไกการออกฤทธิ์
สารนี้ จัดอยู่ในสารกำจัดแมลงกลุ่มที่ 1B เป็นสารประเภทไม่ดูดซึม
สารนี้ จะยับยั้งเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรส (Acetylcholinesterase Inhibitors ) ที่ทำหน้าที่ย่อยสารสื่อประสาท
ชนิด Acetyl choline ซึ่งเป็นตัวถ่ายทอดกระแสประสาทในตัวแมลง จนทำให้เกิดการถ่ายทอดกระแสประสาท
ไม่หยุด แมลงจะเกิดอาการชักและตายลงในที่สุดสามารถออกฤทธิ์ได้ทั้งจากการที่ แมลงสัมผัส
หรือ กินสารนี้เข้าไป
โพรฟีโนฟอส ประโยชน์
- กำจัดแมลงได้กว้างขวาง ความสามารถในการกำจัดแมลงได้หลากหลายกลุ่ม ทำให้ โพรฟีโนฟอส เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน ในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับแมลงหลายชนิดพร้อมกัน หรือไม่ทราบชนิดของแมลงที่ถูกต้องชัดเจน
- ตัวอย่างแมลงที่ กำจัดได้: หนอนกระทู้ผัก , หนอนเจาะสมอฝ้าย , หนอนใยผัก หนอนกอข้าว เพลี้ยอ่อน , เพลี้ยจักจั่น ไรแดง ด้วงหมัดผักด้วงเต่าแตง และแมลงอื่นๆ อีกหลายชนิด
- ออกฤทธิ์เร็ว : ฤทธิ์ที่รวดเร็วของ โพรฟีโนฟอส เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการควบคุมการระบาดของแมลงอย่างฉับพลัน ช่วยลดความเสียหายต่อพืชผลได้อย่างทันท่วงที และลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ
- เหมาะสำหรับสถานการณ์เร่งด่วน: เมื่อพบการระบาดของแมลงในระดับที่ต้องควบคุมอย่างเร่งด่วน การใช้ โพรฟีโนฟอส จะช่วยลดจำนวนประชากรแมลงได้อย่างรวดเร็ว และป้องกันไม่ให้แมลงลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ
- ใช้ได้ในพืชหลายชนิด : ความสามารถในการใช้ได้ในพืชเศรษฐกิจหลายชนิด ทำให้ โพรฟีโนฟอส เป็นสารกำจัดแมลงอเนกประสงค์ ที่เกษตรกรสามารถนำไปใช้ได้กับพืชที่ปลูกหลากหลายชนิด ลดความยุ่งยากในการเลือกซื้อและใช้งานสารกำจัดแมลงหลายชนิด
- ตัวอย่างพืชที่ใช้ โพรฟีโนฟอส ได้: ข้าว, ข้าวโพด, ฝ้าย, ถั่วเหลือง, มันสำปะหลัง, อ้อย, ผักตระกูลกะหล่ำ, มะเขือเทศ, พริก, แตงกวา, ไม้ผลต่างๆ เช่น มะม่วง ส้ม ทุเรียน, ไม้ดอกไม้ประดับ, และอื่นๆ
- ฤทธิ์ครอบคลุมทั้งระยะไข่ ตัวหนอน และตัวเต็มวัย : ในแมลงศัตรูพืชบางชนิด โพรฟีโนฟอส สามารถออกฤทธิ์กำจัดแมลงได้ในทุกระยะการเจริญเติบโต ตั้งแต่ระยะไข่ ตัวหนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย ทำให้สามารถควบคุมประชากรแมลงได้อย่างครอบคลุม และลดการเกิดปัญหาแมลงระบาดซ้ำ
- ช่วยลดวงจรชีวิตแมลง: การกำจัดแมลงได้ในหลายระยะ ช่วยตัดวงจรชีวิตของแมลง ทำให้ประชากรแมลงลดลงในระยะยาว
การใช้งาน
ใช้ผสมน้ำเปล่าแล้วฉีดพ่น สามาระฉีดผ่าดอก และฆ่าไข่หนอนผีเสื้อบนใบได้ ด้วยอัตราส่วน 40 ซีซี ต่อน้ำเปล่า
20 ลิตร โดยฉีดพ่น ก่อนระยะเก็บเกี่ยว 7-14 วัน
ข้อควรระวังในการใช้งาน
เนื่องจากเป็นสารในกลุ่มออร์แกโนฟอสเฟตที่มีความเป็นพิษต่อระบบประสาทของทั้งแมลงและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ รวมถึงมนุษย์ จึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการใช้งาน ดังนี้
- การป้องกันส่วนบุคคล (PPE):
- ผู้ใช้งานควรสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือ, แว่นตานิรภัย, เสื้อผ้าที่ครอบคลุม และหน้ากากกรองสารเคมี
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับสารและละอองที่พ่น
- การอ่านฉลากและปฏิบัติตามคำแนะนำ:
- ปฏิบัติตามอัตราการใช้และวิธีการผสมที่ระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด
- ตรวจสอบคำแนะนำเกี่ยวกับสภาพอากาศและช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพ่น เพื่อหลีกเลี่ยงการพ่นในสภาวะที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย
- การจัดการและเก็บรักษา:
- เก็บรักษาสารในภาชนะที่ปิดมิดชิดและอยู่ในที่ที่มีการควบคุมอุณหภูมิ
- หลีกเลี่ยงการเก็บสารในที่ใกล้แหล่งน้ำ, อาหาร หรือที่อยู่ของเด็กและสัตว์เลี้ยง
- การจัดการของเสียและภาชนะบรรจุ:
- ควรมีการจัดการกับภาชนะบรรจุที่ใช้แล้วอย่างเหมาะสมและไม่อนุญาตให้นำกลับมาใช้ใหม่
- ทำลายภาชนะให้ถูกวิธีเพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุหรือการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม
- การฝึกอบรมและความรู้:
- ผู้ใช้งานควรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้งานและความปลอดภัยของสารเคมีชนิดนี้
- ควรมีการติดตามผลกระทบและความปลอดภัยในการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
กำลังมองหา สารกำจัดแมลง อยู่รึเปล่า? สั่งซื้อได้ที่นี่เลย
หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @luckyworm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ