Last Updated on มกราคม 22, 2025 by admin
ไพราโคลสโตรบิน (pyraclostrobin) เป็นสารป้องกันและกำจัดโรคพืชที่มีประสิทธิภาพสูง ถูกนำมาใช้ในเกษตรกรรมอย่างแพร่หลายเพื่อควบคุมเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคในพืชหลายชนิด บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ ความเสี่ยง และกลไกการออกฤทธิ์ของไพราโคลสโตรบิน เพื่อให้เกษตรกรและผู้สนใจได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
กลไกการออกฤทธิ์
ไพราโคลสโตรบินจัดอยู่ในกลุ่มสารเคมี Methoxy-carbamates (FRAC กลุ่ม 11) มีการออกฤทธิ์โดยการรบกวนกระบวนการหายใจของเชื้อรา ทำให้เชื้อราขาดพลังงานและไม่สามารถเจริญเติบโตหรือสร้างสปอร์ได้ เมื่อฉีดพ่นบนพืช สารจะถูกดูดซึมผ่านผิวใบและเคลื่อนย้ายภายในพืช ทำให้สามารถป้องกันและกำจัดเชื้อราได้ทั้งภายในและภายนอก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการยับยั้งการสร้างสปอร์ของเชื้อรา ทำให้ลดการแพร่กระจายของโรคในแปลงปลูก
จุดเด่น
ประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดเชื้อรา: ไพราโคลสโตรบินมีความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราหลายชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคพืช เช่น โรคแอนแทรคโนส โรคราแป้ง โรคราสนิม และโรคใบไหม้ ทำให้พืชมีสุขภาพดีและเพิ่มผลผลิต
การดูดซึมและกระจายตัวในพืช: สารนี้เป็นประเภทดูดซึม (systemic) สามารถซึมผ่านผิวใบและกระจายตัวภายในพืชได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถป้องกันและรักษาโรคพืชได้ทั้งภายในและภายนอก
การยับยั้งการสร้างสปอร์ของเชื้อรา: ไพราโคลสโตรบินมีคุณสมบัติในการยับยั้งการสร้างสปอร์ของเชื้อรา ทำให้ลดการแพร่กระจายของโรคในแปลงปลูก
การใช้งานที่หลากหลาย: สามารถใช้กับพืชหลายชนิด เช่น ข้าว พืชผัก ผลไม้ และพืชไร่ ทำให้เกษตรกรสามารถนำไปใช้ในแปลงปลูกต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม: เมื่อเทียบกับสารป้องกันกำจัดโรคพืชชนิดอื่นๆ ไพราโคลสโตรบินมีความเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ น้อยกว่า และสลายตัวในสิ่งแวดล้อมได้เร็ว
การใช้งานในพืชต่าง ๆ
1 ข้าว: ใช้ป้องกันและกำจัดโรคที่เกิดจากเชื้อราในข้าว เช่น โรคเมล็ดด่าง โรคใบจุดสีน้ำตาล โรคกาบใบแห้ง และโรคใบขีดสีน้ำตา
2 พริก: ใช้ป้องกันและกำจัดโรคกุ้งแห้ง ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ผลพริกแห้งและเสียหาย
3 ทุเรียน: ใช้ป้องกันและกำจัดโรคใบติด ซึ่งทำให้ใบทุเรียนมีจุดสีน้ำตาลและร่วงหล่น
ความเสี่ยงและข้อควรระวังในการใช้
ความเสี่ยงต่อสุขภาพ: การสัมผัสกับสารในปริมาณมากโดยตรง อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง ตา และระบบทางเดินหายใจได้ ดังนั้น ผู้ที่ใช้สารเคมีชนิดนี้ควรสวมใส่ชุดป้องกันอันตรายให้ครบถ้วน
ความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม: แม้ว่าสารนี้จะสลายตัวในสิ่งแวดล้อมได้เร็ว แต่การใช้สารเคมีในปริมาณมากและบ่อยครั้ง อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในดินและน้ำได้
การดื้อยา: การใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชชนิดเดียวซ้ำๆ อาจทำให้เชื้อราดื้อยาได้ ดังนั้น ควรหมุนเวียนใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชชนิดอื่นๆ สลับกันไป
ข้อควรปฏิบัติในการใช้งาน
อ่านฉลากให้ละเอียด: ก่อนการใช้สารเคมีทุกครั้ง ควรอ่านฉลากให้ละเอียด เพื่อทราบถึงวิธีการใช้ อัตราการใช้ และข้อควรระวังต่างๆ
สวมใส่ชุดป้องกัน: ควรสวมใส่ชุดป้องกัน เช่น หน้ากาก หมวก ถุงมือ และรองเท้าบู๊ต ก่อนการใช้สารเคมี
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และรับประทานอาหารขณะใช้สารเคมี
เก็บสารเคมีไว้ในที่ปลอดภัย: เก็บสารเคมีไว้ในภาชนะเดิม ปิดฝาให้สนิท และเก็บไว้ในที่มืด เย็น และแห้ง
กำจัดภาชนะบรรจุที่ใช้แล้วอย่างถูกวิธี: ไม่ทิ้งภาชนะบรรจุลงในแหล่งน้ำ หรือฝังกลบ
ไพราโคลสโตรบินเป็นสารป้องกันกำจัดโรคพืชที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถควบคุมโรคพืชได้หลากหลายชนิด และมีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าสารป้องกันกำจัดโรคพืชชนิดอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การใช้ไพราโคลสโตรบินอย่างถูกวิธีและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม
อ่านบทความดีๆกันแล้ว อย่าลืม แอดไลน์ มาเป็นเพื่อนกัน
เพื่อให้ท่านไม่พลาดข่าวสารและโปรโมชั่นดีๆจากทางร้านนะคะ