กุมภาพันธ์ 7, 2025

Blog

ไม้ใบ 20ชนิด สวย น่าปลูก ประดับบ้านและสวน

คลังบทความ
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

Last Updated on มกราคม 23, 2025 by admin

ใครว่าบ้านและสวนต้องมีแต่ดอกไม้สีสด? ไม้ใบก็สวยงามและมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ด้วยรูปทรงที่แปลกตา สีสันที่หลากหลาย และลวดลายที่น่าสนใจ ทำให้ไม้ใบกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตกแต่งที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นสไตล์มินิมอล โมเดิร์น หรือทรอปิคอล บทความนี้ขอแนะนำ 20 ไม้ใบ ที่จะช่วยเติมเต็มความสวยงามให้กับทุกมุมโปรดของคุณ

ไม้ใบ หมายถึง พืชที่มีจุดเด่นหรือคุณค่าในส่วนของใบมากกว่าส่วนอื่น เช่น ดอกหรือผล ไม้ใบมักมีใบที่สวยงามโดดเด่นทั้งในด้านรูปร่าง สีสัน หรือพื้นผิว และถูกใช้เป็นพืชประดับสำหรับตกแต่งภายในหรือภายนอกอาคาร รวมถึงสวนต่าง ๆ โดยไม่ได้เน้นความสำคัญในเรื่องของดอกหรือผล

ลักษณะสำคัญของไม้ใบ

  1. ใบเป็นจุดเด่นหลัก
    • ใบของไม้ใบอาจมีรูปร่างหลากหลาย เช่น ใบรูปหัวใจ รูปไข่ หรือรูปแฉก
    • สีของใบมีความหลากหลาย เช่น สีเขียวสด สีเขียวอมเหลือง สีแดง สีน้ำตาล หรือใบลายที่มีหลายสีในต้นเดียว (Variegated leaves)
  2. การดูแลเน้นที่ใบ
    • การดูแลไม้ใบมักให้ความสำคัญกับการรักษาความชุ่มชื้นและแสงแดดที่เหมาะสม เพื่อให้ใบยังคงความสวยงาม
  3. ปลูกง่ายและเหมาะสำหรับตกแต่ง
    • ไม้ใบมักไม่ต้องการการดูแลซับซ้อน จึงเหมาะสำหรับตกแต่งบ้าน สำนักงาน หรือสวนที่เน้นความเป็นธรรมชาติ

แนะนำ ไม้ใบ 20ชนิด น่าปลูก

1. มอนสเตอร่า (Monstera deliciosa):

  • ลักษณะ: มอนสเตอร่าเป็นไม้เลื้อยที่มีใบขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม เป็นมันเงา มีลักษณะเด่นคือรอยฉีกขาดหรือรูบนใบ ซึ่งจะปรากฏมากขึ้นเมื่อต้นโตเต็มที่ รอยฉีกเหล่านี้มีรูปแบบที่หลากหลาย ทำให้ใบของมอนสเตอร่าดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขอบใบเรียบ มีก้านใบยาว

2. ไทรใบสัก (Ficus lyrata):

  • ลักษณะ: ไทรใบสักมีใบขนาดใหญ่ รูปทรงคล้ายไวโอลินหรือพิณ มีสีเขียวเข้มเป็นมันเงา พื้นผิวใบหนาคล้ายแผ่นหนัง เส้นใบเห็นได้ชัดเจนและเป็นระเบียบ ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย

3. พลูด่าง (Epipremnum aureum):

4. อโกลนีมา (Aglaonema spp.):

  • ลักษณะ: อโกลนีมาหรือแก้วกาญจนาเป็นไม้ใบที่มีใบรูปหอกหรือรูปไข่ มีสีสันและลวดลายหลากหลาย เช่น สีเขียวเข้ม สีเงิน สีชมพู หรือสีแดง ลวดลายบนใบมีทั้งแบบจุด ด่าง เส้น หรือลายผสม ทำให้มีให้เลือกมากมายตามความชอบ

5. เดหลี (Spathiphyllum spp.):

ลักษณะ: เดหลีมีใบสีเขียวเข้ม เป็นมันเงา รูปทรงเรียวยาว ปลายแหลม เส้นใบชัดเจน มีดอกสีขาวคล้ายดอกหน้าวัว ซึ่งเป็นส่วนของกาบดอกที่หุ้มดอกเล็กๆ ไว้ภายใน แม้จะเน้นปลูกเพื่อใบ แต่ดอกสีขาวก็ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับต้น

6. คล้า (Calathea spp.):

  • ลักษณะ: คล้าเป็นไม้ใบที่มีความโดดเด่นที่ลวดลายและสีสันบนใบ ซึ่งมีความหลากหลายมาก เช่น ลายขนนก ลายก้างปลา ลายเส้น หรือลายจุด สีของใบมีทั้งสีเขียวเข้ม เขียวอ่อน สีขาว สีชมพู และสีม่วงแดง ด้านล่างของใบบางชนิดมักมีสีม่วงแดงหรือสีแดงเข้ม ทำให้เกิดความแตกต่างและมีมิติที่สวยงาม

7. ฟิโลเดนดรอนใบมะละกอ (Philodendron bipinnatifidum):

  • ลักษณะ: ฟิโลเดนดรอนใบมะละกอ มีใบขนาดใหญ่ รูปทรงเว้าลึกเป็นแฉกคล้ายใบมะละกอ ทำให้มีลักษณะเฉพาะตัวที่สวยงาม ใบมีสีเขียวสด และมีก้านใบยาว เมื่อต้นโตเต็มที่ ใบจะมีขนาดใหญ่และมีรอยเว้ามากขึ้น

8. หนวดปลาหมึกแคระ (Asparagus densiflorus):

  • ลักษณะ: หนวดปลาหมึกแคระ มีลักษณะเด่นคือใบที่ลดรูปเป็นเส้นเล็กๆ คล้ายเข็มหรือขน มีสีเขียวอ่อน เรียงตัวกันอย่างหนาแน่น ทำให้ดูฟูและนุ่มนวลคล้ายหนวดปลาหมึก มีลำต้นเป็นเหง้าใต้ดิน

9. เศรษฐีเรือนใน (Chlorophytum comosum):

  • ลักษณะ: เศรษฐีเรือนใน มีใบเรียวยาว สีเขียวอ่อน มีแถบสีขาวหรือสีเหลืองที่ขอบใบ หรือกลางใบ ทำให้ดูโดดเด่นและสวยงาม มีรากอวบที่ทำหน้าที่สะสมอาหาร และมักมีไหล (Stolon) ที่มีต้นอ่อนติดอยู่ ซึ่งสามารถนำไปขยายพันธุ์ได้

10. ลิ้นมังกร (Sansevieria spp.):

ลักษณะ: ลิ้นมังกร มีใบแข็งแรง ตั้งตรง รูปทรงแหลมคมคล้ายดาบหรือลิ้น มีสีเขียวเข้ม และบางสายพันธุ์มีลายเส้นสีขาว สีเหลือง หรือสีเขียวอ่อน พาดขวางบนใบ มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี

11. บอนสี (Caladium spp.):

  • ลักษณะ: บอนสีได้รับฉายาว่า “ราชินีแห่งไม้ใบ” ด้วยสีสันและลวดลายที่หลากหลายและสวยงามบนใบ ใบมีรูปทรงคล้ายหัวใจหรือใบโพธิ์ มีสีพื้นเป็นสีขาว ชมพู แดง หรือเขียว และมีลวดลายเป็นจุด ด่าง เส้น หรือปื้นสีต่างๆ กระจายอยู่บนใบ ทำให้เกิดความสวยงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์

12. หมากผู้หมากเมีย (Dracaena reflexa):

  • ลักษณะ: หมากผู้หมากเมียมีใบเรียวยาว ปลายแหลม ขอบใบเรียบ สีเขียวสดใส บางสายพันธุ์มีแถบสีเหลืองหรือสีขาวที่ขอบใบหรือกลางใบ ทำให้ดูโดดเด่นและสวยงาม มีลำต้นตั้งตรงและแตกกิ่งก้าน

13. เสน่ห์จันทร์แดง (Homalomena rubescens):

  • ลักษณะ: เสน่ห์จันทร์แดงมีใบรูปหัวใจขนาดใหญ่ ผิวใบเป็นมัน สีเขียวเข้ม ด้านล่างของใบมีสีแดงอมม่วงหรือสีแดงสด ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่ทำให้ได้รับชื่อว่า “เสน่ห์จันทร์แดง” ก้านใบมีสีแดงหรือสีชมพู

14. เฟิร์นข้าหลวง (Asplenium nidus):

  • ลักษณะ: เฟิร์นข้าหลวงมีใบขนาดใหญ่ รูปทรงคล้ายลิ่มหรือใบพาย ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวใบเป็นมันวาว สีเขียวสด เรียงตัวเป็นวงกลมคล้ายรังนก ทำให้ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ

15. ฟิโลเดนดรอนใบหัวใจ (Philodendron hederaceum):

ลักษณะ: ฟิโลเดนดรอนใบหัวใจ เป็นไม้เลื้อยที่มีใบรูปหัวใจ ขนาดเล็กถึงกลาง ผิวใบเป็นมันวาว สีเขียวเข้ม มีก้านใบยาวและมักมีรากอากาศออกมาตามข้อ เป็นฟิโลเดนดรอนที่ปลูกและดูแลรักษาง่าย

16. คล้าแมว (Ctenanthe setosa):

  • ลักษณะ: คล้าแมวมีใบเรียวยาว ปลายแหลม ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ด้านบนของใบมีสีเขียวเข้ม มีลายเส้นสีเขียวอ่อนสลับกันอย่างสวยงาม ด้านล่างของใบมีสีม่วงแดง ทำให้มีมิติที่น่าสนใจ มีลักษณะคล้ายคล้าชนิดอื่น แต่มีเอกลักษณ์ที่ลายใบเป็นเส้นๆ คล้ายรอยขีดข่วนของแมว

17. เศรษฐีเงินหนา (Crassula ovata ‘Gollum’ หรือ ‘Hobbit’):

  • ลักษณะ: ถึงแม้จะอยู่ในวงศ์เดียวกับไม้อวบน้ำ แต่เศรษฐีเงินหนาสายพันธุ์ ‘Gollum’ และ ‘Hobbit’ มีลักษณะใบที่โดดเด่นและมักถูกจัดอยู่ในกลุ่มไม้ใบ ใบมีลักษณะเป็นหลอดกลม ปลายแหลม คล้ายนิ้วมือหรือหูของตัวละครในเทพนิยาย มีสีเขียวสด และอาจมีขอบแดงเมื่อโดนแดด รูปทรงใบที่แปลกตาทำให้เป็นที่นิยม

18. แสงจันทร์ (Philodendron Moonlight):

  • ลักษณะ: เป็นฟิโลเดนดรอนอีกชนิดหนึ่งที่มีใบสีเหลืองทองหรือเขียวอ่อนคล้ายสีของแสงจันทร์ ใบมีลักษณะเรียวยาว ปลายแหลม เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ให้ความรู้สึกสดใสและอบอุ่น แตกต่างจากฟิโลเดนดรอนชนิดอื่นที่มีใบสีเขียวเข้ม

19. เฟิร์นบอสตัน (Nephrolepis exaltata):

  • ลักษณะ: เฟิร์นบอสตันเป็นเฟิร์นที่มีใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยมีลักษณะเรียวยาว ขอบใบหยักเล็กน้อย สีเขียวสด ใบอ่อนมีลักษณะอ่อนพลิ้วและโค้งลงเล็กน้อย ทำให้ดูสวยงามและอ่อนช้อย เหมาะสำหรับปลูกในกระถางแขวนหรือประดับในมุมสวนที่มีแสงรำไร

20. ไอวี่ (Hedera helix):

  • ลักษณะ: ไอวี่เป็นไม้เลื้อยที่มีใบหลายรูปแบบ ทั้งแบบมีแฉก (3-5 แฉก) และแบบไม่มีแฉก ขอบใบเรียบหรือหยักเล็กน้อย ผิวใบเป็นมัน สีเขียวเข้ม และบางสายพันธุ์มีด่างสีขาวหรือสีเหลืองบนใบ มีรากอากาศที่ใช้ยึดเกาะกับผนังหรือพื้นผิวต่างๆ ทำให้สามารถเลื้อยไปได้ไกล

“In nature, nothing is perfect and everything is perfect. Trees can be contorted, bent in weird ways, and they’re still beautiful.”Alice Walker

ในธรรมชาติ ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบและทุกสิ่งก็สมบูรณ์แบบ ต้นไม้สามารถบิดเบี้ยว โค้งงอในรูปแบบแปลกๆ และพวกมันก็ยังคงสวยงาม

เคล็ดลับการดูแลไม้ใบให้สวยงามสมบูรณ์อยู่เสมอ

1. เลือกสถานที่ที่เหมาะสม

ไม้ใบส่วนใหญ่มักต้องการแสงแดดในระดับปานกลางถึงแสงรำไร การวางไม้ใบในบริเวณที่ได้รับแสงที่เหมาะสมช่วยให้ใบไม่ไหม้หรือซีดจาง หากปลูกในร่ม ควรเลือกบริเวณใกล้หน้าต่างที่มีแสงธรรมชาติส่องถึง หรือใช้ไฟปลูกต้นไม้ช่วยเพิ่มแสง

2. รดน้ำอย่างเหมาะสม

การรดน้ำเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดูแลไม้ใบ ควรรดน้ำเมื่อดินเริ่มแห้งแต่ไม่แห้งจนเกินไป ใช้นิ้วตรวจความชื้นของดินก่อนรดน้ำ หลีกเลี่ยงการรดน้ำจนแฉะเพราะอาจทำให้รากเน่าได้

3. ใช้ดินที่ระบายน้ำได้ดี

ดินที่เหมาะสำหรับไม้ใบควรมีคุณสมบัติระบายน้ำได้ดีและอุดมด้วยสารอาหาร คุณสามารถผสมดินปลูกสำเร็จรูปกับวัสดุปลูกอื่น ๆ เช่น ทรายหยาบหรือพีทมอส เพื่อเพิ่มการระบายน้ำและช่วยให้รากแข็งแรง

4. ใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสม

ไม้ใบต้องการธาตุอาหารเพื่อการเจริญเติบโตและการสร้างใบที่เขียวชอุ่ม ใช้ปุ๋ยสำหรับไม้ใบที่มีไนโตรเจนสูงในปริมาณที่เหมาะสม ใส่ปุ๋ยทุก 2-4 สัปดาห์ในช่วงที่ต้นไม้กำลังเติบโต และลดความถี่ในช่วงฤดูหนาว

5. ดูแลความชื้นในอากาศ

ไม้ใบส่วนใหญ่ชอบความชื้นในอากาศสูง โดยเฉพาะไม้ใบที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อน คุณสามารถเพิ่มความชื้นโดยการพ่นละอองน้ำบริเวณใบ วางถาดน้ำไว้ใกล้ต้นไม้ หรือใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในห้อง

6. ทำความสะอาดใบไม้

ฝุ่นที่สะสมบนใบอาจลดประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงและทำให้ใบดูหม่นหมอง ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดใบเบา ๆ เป็นประจำ หรือใช้ละอองน้ำล้างเพื่อรักษาความสดใสของใบ

7. ตัดแต่งใบที่เสียหาย

ใบที่แห้งหรือเสียหายควรตัดออกเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคและช่วยให้ต้นไม้ดูเรียบร้อย การตัดแต่งยังช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตใหม่

8. ป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช

ตรวจสอบไม้ใบของคุณเป็นประจำเพื่อหาแมลงหรือโรคที่อาจเกิดขึ้น เช่น เพลี้ย แมลงหวี่ขาว หรือเชื้อราบนใบ หากพบปัญหา ควรใช้สารป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชที่เหมาะสม เช่นการฉีดสารชีวภัณฑ์ ป้องกันแมลง

9. หมุนกระถางต้นไม้

หมุนกระถางไม้ใบเป็นระยะเพื่อให้ต้นไม้ได้รับแสงแดดทั่วถึงทุกด้าน วิธีนี้ช่วยให้ไม้ใบเติบโตอย่างสมดุลและลดปัญหาใบเอียงไปทางแสงเพียงด้านเดียว

10. ปรับตัวตามฤดูกาล

ในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาว อาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการดูแล เช่น ลดการรดน้ำในช่วงที่มีความชื้นสูง หรือให้แสงเพิ่มเติมในช่วงที่แสงธรรมชาติน้อย

ด้วยความหลากหลายของสีสัน รูปทรง และลวดลาย ทำให้ไม้ใบเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการตกแต่งบ้านและสวน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเลือกไม้ใบที่ใช่ เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวที่สวยงามและน่าอยู่ให้กับบ้านและสวนของคุณนะคะ

และถ้าอยากให้ พืชพรรณในสวนของท่าน แข็งแรง ให้ผลผลิตสูงอย่าลืม
เติมธาตุอาหารด้วยให้ พืชพรรณของท่านอยู่เสมอนะคะ สั่งซื้อได้ที่นี่เลย

หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @260afyhm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ

เพิ่มเพื่อน

error: Content is protected !!