ธันวาคม 5, 2025

Blog

กระดุมใบเงิน ไม้ทำแนวรั้วสวยทนทาน พร้อมวิธีปลูกและดูแลรักษา

คลังบทความ
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

Last Updated on สิงหาคม 7, 2025 by admin

ในโลกของคนรักสวน การค้นหาพรรณไม้ที่ทั้งสวยงามโดดเด่นและทนทานต่อสภาพอากาศเมืองไทยถือเป็นโจทย์สำคัญ กระดุมใบเงิน หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Conocarpus erectus var. sericeus คือหนึ่งในตัวเลือกที่เป็นที่นิยมของเหล่านักจัดสวน ด้วยเสน่ห์ของใบสีเงินยวงที่ส่องประกายยามต้องแสง ทำให้ไม้พุ่มชนิดนี้กลายเป็นดาวเด่นที่สามารถเปลี่ยนสวนธรรมดาให้ดูสว่างและหรูหราขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับกระดุมใบเงินอย่างละเอียด ตั้งแต่ลักษณะเด่น วิธีการปลูก การดูแล ไปจนถึงการใช้งานในงานภูมิทัศน์

กระดุมใบเงิน คือพันธุ์ไม้ประดับในสกุลเดียวกับต้นกระดุมทอง มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนชื้นแถบทวีปอเมริกาและแอฟริกาตะวันตก โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งและป่าชายเลน สิ่งที่ทำให้พันธุ์ sericeus นี้พิเศษและเป็นที่ต้องการอย่างสูง คือลักษณะของใบที่ปกคลุมด้วยขนอ่อนละเอียดสีขาวหนาแน่น ทำให้ทั้งใบมีสีเขียวอมเทาไปจนถึงสีเงินสวยงาม ซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติที่ช่วยลดการคายน้ำและสะท้อนความร้อนจากแสงแดด

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ที่โดดเด่น ของ กระดุมใบเงิน

  • ทรงพุ่ม: เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้เต็มที่ประมาณ 2-6 เมตร (ขึ้นอยู่กับการตัดแต่ง) ทรงพุ่มค่อนข้างแน่น แตกกิ่งก้านได้ดี ตอบสนองต่อการตัดแต่งได้ดีเยี่ยม ทำให้สามารถควบคุมความสูงและสร้างรูปทรงที่ต้องการได้ง่าย
  • ใบ: เป็นลักษณะเด่นที่สุด ใบเป็นใบเดี่ยว รูปรีถึงรูปไข่กลับ ปลายใบมน ผิวใบและก้านใบปกคลุมด้วยขนนุ่มสีขาวเงินหนาแน่น ทำให้ใบมีสัมผัสที่นุ่มนวลและมีสีที่โดดเด่น ยิ่งปลูกในบริเวณที่ได้รับแสงแดดจัดเต็มวัน สีของใบจะยิ่งสว่างเป็นประกาย
  • ดอก: ดอกมีขนาดเล็กมาก ไม่มีกลีบดอกที่สวยงาม ออกรวมกันเป็นช่อทรงกลมสีเขียวอมเหลืองบริเวณปลายกิ่ง ไม่มีความสำคัญในเชิงไม้ประดับ
  • ผล: ผลมีขนาดเล็ก ลักษณะเป็นผลแห้งที่อัดกันแน่นเป็นก้อนกลมๆ คล้ายกระดุมหรือลูกข่าง เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “กระดุมใบเงิน”

เคล็ดลับการปลูกและการดูแล กระดุมใบเงิน ให้ใบสวยสมบูรณ์

ไม้ชนิดนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้ที่ “ปลูกง่าย ทนทาน โตเร็ว” เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นไปจนถึงนักจัดสวนมืออาชีพ

  1. แสงแดด: เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด กระดุมใบเงินต้องการแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน เพื่อให้ใบผลิตขนสีเงินออกมาได้อย่างเต็มที่และมีสีสันที่สวยงาม หากได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ ใบจะลดความเงางามลงและอาจมีสีเขียวมากขึ้น
  2. ดิน: สามารถเจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชนิด แต่ดินที่เหมาะสมที่สุดคือดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดีเยี่ยม ทนทานต่อดินเค็มได้ดีมาก จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับสวนริมทะเล
  3. น้ำ: เป็นพืชทนแล้ง เมื่อตั้งตัวได้แล้วแทบไม่ต้องดูแลเรื่องการรดน้ำมากนัก ควรรดน้ำเมื่อดินแห้ง หรือรดน้ำ 2-3 วันต่อครั้งก็เพียงพอ การให้น้ำมากเกินไปและดินที่แฉะอาจทำให้เกิดโรครากเน่าได้
  4. ปุ๋ย: ไม่ต้องการปุ๋ยมากนัก สามารถให้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 16-16-16 ทุกๆ 2-3 เดือน เพื่อบำรุงการเจริญเติบโตโดยรวมให้สมบูรณ์
  5. การตัดแต่ง: เป็นหัวใจสำคัญในการทำให้กระดุมใบเงินสวยงาม ควรตัดแต่งทรงพุ่มอย่างสม่ำเสมอเพื่อควบคุมขนาดและทำให้พุ่มแน่นสวย การตัดแต่งยังกระตุ้นให้พืชแตกใบใหม่ที่มีสีเงินสดใสกว่าใบเก่า

การขยายพันธุ์

วิธีการขยายพันธุ์ที่ง่ายและเป็นที่นิยมที่สุดคือ การปักชำกิ่ง โดยเลือกกิ่งที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป (กึ่งแก่กึ่งอ่อน) ตัดให้มีความยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร แล้วนำไปปักชำในวัสดุที่สะอาดและระบายน้ำได้ดี เช่น ขุยมะพร้าวผสมทราย รอจนรากเดินดีแล้วจึงย้ายลงปลูก

การใช้งานในงานภูมิทัศน์และจัดสวน

ด้วยรูปลักษณ์และคุณสมบัติที่ทนทาน ทำให้กระดุมใบเงินถูกนำไปใช้อย่างหลากหลาย

  • ไม้ประธาน : ปลูกต้นเดียวโดดๆ เพื่อโชว์ฟอร์มและสีสันที่สวยงาม เป็นจุดนำสายตาของสวน
  • แนวรั้ว : ปลูกเป็นแถวชิดกันแล้วตัดแต่งเป็นแนวรั้ว ช่วยสร้างขอบเขตที่สว่างและดูทันสมัย
  • ไม้กระถาง : เหมาะสำหรับปลูกในกระถางขนาดใหญ่เพื่อประดับตกแต่งบริเวณระเบียง ทางเข้า หรือลานบ้าน
  • ปลูกเป็นกลุ่ม : การปลูกเป็นกลุ่มใหญ่จะช่วยสร้างพื้นผิวสีเงินที่งดงาม ตัดกับสีเขียวของไม้ชนิดอื่นได้เป็นอย่างดี

ข้อควรระวัง โรคและแมลง

โดยทั่วไปเป็นพืชที่ทนทานต่อโรคและแมลงมาก ปัญหาที่อาจพบได้บ้างคือเพลี้ยแป้งหากปลูกในบริเวณที่อับลมเกินไป และโรครากเน่าหากดินระบายน้ำไม่ดี

อ่านบทความดีๆกันแล้ว
แล้วอย่าลืม แอดไลน์ มาเป็นเพื่อนกัน เพื่อให้ท่านไม่พลาดข่าวสารและโปรโมชั่นดีๆจากทางร้าน

เพิ่มเพื่อน

error: Content is protected !!