Last Updated on มีนาคม 7, 2025 by admin
ใครจะไปคิดว่าผักธรรมดา ๆ อย่าง ต้นหอม ที่เราคุ้นเคยกันดี จะมีบทบาทสำคัญในครัวไทยมากขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นผัดไทยรสเด็ด ต้มยำกุ้งน้ำข้น หรือไข่เจียวร้อน ๆ ต้นหอมก็เป็นตัวชูโรงที่ขาดไม่ได้ ช่วยเพิ่มรสชาติ สีสัน และกลิ่นหอม ให้อาหารน่ารับประทานยิ่งขึ้น แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกเพียบ วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับการปลูกต้นหอมแบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ ปลูกไว้กินเองก็ดี ปลูกขายสร้างรายได้เสริมก็เริด
วิธีการปลูกต้นหอม
1. การเตรียมดิน
ต้นหอมชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดี ค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 6.5-8 ไม่ควรใช้ดินละเอียดมากเกินไป เพราะจะทำให้ดินแน่น หัวหอมโตยาก หากดินแข็ง ให้ผสมทราย แกลบดิบ ขี้เถ้าแกลบ ดินใบก้ามปู หรือกาบมะพร้าวสับ ในอัตราส่วน 1:1:1 และเพื่อรักษาความชื้น ป้องกันวัชพืช และช่วยปรับอุณหภูมิของดิน เราสามารถใช้ฟางข้าวหรือแกลบดิบคลุมหน้าดินได้ ส่วนใครที่ปลูกในกระถาง อย่าลืมเลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำด้วยล่ะ
2. การเลือกพันธุ์
ต้นหอมมีหลากหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์ก็มีลักษณะ รสชาติ และการนำไปใช้ที่แตกต่างกันไป พันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่
- หอมแบ่ง: เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ต้นใหญ่ ใบหนา สีเขียวเข้ม อายุการเก็บเกี่ยวสั้น ประมาณ 30-35 วัน เหมาะสำหรับนำมาประกอบอาหาร เช่น ผัดผัก แกงจืด หรือยำต่าง ๆ
- หอมต้น: มีลักษณะคล้ายหอมแบ่ง แต่ต้นเล็กกว่า ใบยาวเรียว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ นิยมใช้โรยหน้าอาหาร เช่น โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยว หรือข้าวต้ม
- หอมแดง: หัวจะมีสีแดงอมม่วง กาบใบชั้นนอกมีสีน้ำตาลแดง ใบเรียวยาวเป็นท่อสีเขียว ด้านในกลวง มีรสชาติเผ็ดร้อน นิยมใช้เป็นเครื่องเทศ เช่น ทำน้ำพริก หรือใส่ในแกงต่าง ๆ
3. การปลูก
ต้นหอมสามารถปลูกได้ 2 วิธี คือ
- การเพาะเมล็ด: โรยเมล็ดลงบนหน้าดิน กลบด้วยดินบาง ๆ รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่ร่มรำไร ประมาณ 7-10 วัน เมล็ดก็จะเริ่มงอก
- การปักชำ: นิยมใช้กับหอมแบ่ง โดยตัดส่วนหัวของต้นหอมที่มีรากติดมาด้วย ปักลงในดิน รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่ร่มรำไร ต้นหอมก็จะเจริญเติบโตต่อไป
4. การดูแลรักษา
- การรดน้ำ: ในช่วงแรก ควรรดน้ำเช้า-เย็น แต่เมื่อต้นหอมเริ่มโตและแข็งแรงดีแล้ว ให้ลดเหลือวันละครั้งก็พอ
- การใส่ปุ๋ย: ต้นหอมเป็นพืชที่ต้องการธาตุอาหารสูง ควรใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 เพื่อบำรุงดิน หากต้องการเร่งการเจริญเติบโต ให้ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-16 ส่วนใครที่ต้องการทำหัวพันธุ์ สามารถใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-24 เพื่อช่วยขยายหัวและเพิ่มน้ำหนักได้
- การป้องกันโรคและแมลง: ต้นหอมมักมีปัญหาเรื่องโรคใบไหม้ ซึ่งเกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ควรดูแลเรื่องการระบายอากาศ และความชื้น ส่วนแมลงศัตรูพืช เช่น หนอน เพลี้ย ควรหมั่นตรวจดู และกำจัดตั้งแต่เริ่มพบ อาจใช้วิธีธรรมชาติ เช่น การใช้สารสกัดจากสะเดา หรือพริก เพื่อไล่แมลง
ประโยชน์ของการปลูกต้นหอม
- ประโยชน์ต่อสุขภาพ: ต้นหอมอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม โพแทสเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคโลหิตจาง บำรุงผิวพรรณ และลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง นอกจากนี้ ต้นหอมยังมีสรรพคุณทางยา ช่วยขับเหงื่อ แก้หวัด ลดไข้ ขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยในการย่อยอาหาร ต้นหอมยังมีสารเคอร์ซิติน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ป้องกันแบคทีเรียและไวรัส และช่วยป้องกันอาการแพ้ได้อีกด้วย การรับประทานต้นหอมเป็นประจำยังช่วยบำรุงและรักษาสุขภาพหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยในการไหลเวียนเลือด
- ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ: การปลูกต้นหอมช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เพราะไม่ต้องเสียเงินซื้อ แถมยังสามารถสร้างรายได้เสริมจากการขายต้นหอมสด หรือทำหัวพันธุ์จำหน่ายได้อีกด้วย
- ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม: การปลูกต้นหอมเอง ช่วยลดการใช้สารเคมี ทำให้เราได้บริโภคผักที่ปลอดภัย ไร้สารพิษ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อยากปลูกต้นหอม ให้ได้ผลผลิตที่แข็งแรง ปลูกง่ายโตไว ต้านทานโรคได้ดี
ต้องเริ่มต้น ที่เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ สั่งซื้อ เมล็ดพันธุ์ ได้ที่นี่เลย
หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @luckyworm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ