Last Updated on มีนาคม 2, 2025 by admin
ผักชีฝรั่ง เป็นอีกหนึ่งผักสวนครัว ที่นิยมปลูกเพื่อบริโภค ผักชี ชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดจาก ทวีปอเมริกาใต้ และ
ประเทศเม็กซิโก ต่อมาถูกนำเข้ามาในประเทศไทย จนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย หากใครได้เคยลองชิม
ก็จะรู้ว่า เป็นผักที่มีกลิ่นเฉพาะตัว และนอกจากจะมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย
มากมายเลยอีกด้วย ผักชีชนิดนี้ อุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ บี1 บี 2 บี3 วิตามินซี แคลเซียม
ธาตุเหล็ก ไนอาซิน และกรดโฟลิก ปลูกก็ไม่ยากด้วยนะ สามารถปลูกเอาไว้รับประทานเองได้ภาย
ในครัวเรือน ใช้เนื้อที่ไม่เยอะเลย
การเตรียมตัวก่อนปลูกผักชีฝรั่ง
- เลือกสายพันธุ์: พิจารณาเลือกสายพันธุ์ผักชีฝรั่งที่เหมาะสมกับความชอบและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน หากต้องการใช้ตกแต่งจานอาหาร เลือกผักชีฝรั่งใบหยิก หากต้องการใช้ปรุงอาหาร เลือกผักชีฝรั่งใบเรียบ
- เตรียมเมล็ดพันธุ์: สามารถหาซื้อเมล็ดพันธุ์ผักชีฝรั่งได้จากร้านขายเมล็ดพันธุ์ทั่วไป หรือเพาะเมล็ดพันธุ์เองจากต้นผักชีฝรั่งที่สมบูรณ์ หากเพาะเมล็ดพันธุ์เอง ควรแช่เมล็ดในน้ำอุ่นประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนนำไปเพาะ เพื่อกระตุ้นการงอกของเมล็ด
- เลือกพื้นที่ปลูก: ผักชีฝรั่งชอบแสงแดดเต็มที่ ควรเลือกพื้นที่ปลูกที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ดินควรเป็นดินร่วน ระบายน้ำได้ดี และมีอินทรียวัตถุสูง
- เตรียมดินปลูก: ปรุงดินปลูกโดยผสมดินร่วน ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก และวัสดุปลูกอื่นๆ เช่น แกลบดิบ ขุยมะพร้าว เพื่อเพิ่มความร่วนซุยและธาตุอาหารในดิน ค่า pH ของดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกผักชีฝรั่งคือ 6.0-7.0
วิธีปลูก ผักชีฝรั่ง
ขั้นตอนการปลูกผักชีฝรั่ง
- เพาะเมล็ด (สำหรับปลูกจากเมล็ด):
- เตรียมกระถางเพาะ หรือถาดเพาะที่มีวัสดุเพาะ เช่น พีทมอส หรือดินผสม
- หว่านเมล็ดผักชีฝรั่งลงในวัสดุเพาะ กลบด้วยวัสดุเพาะบางๆ
- รดน้ำให้ชุ่ม วางในที่ร่มรำไร และรักษาความชื้นให้สม่ำเสมอ
- เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ (ประมาณ 3-4 สัปดาห์) สามารถย้ายกล้าลงปลูกในแปลง หรือกระถางปลูกได้
- ปลูกลงแปลง หรือกระถาง:
- ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดพอเหมาะกับรากของต้นกล้า
- นำต้นกล้าออกจากกระถางเพาะอย่างระมัดระวัง ไม่ให้รากกระทบกระเทือน
- วางต้นกล้าลงในหลุมปลูก กลบดินให้แน่นพอประมาณ และรดน้ำให้ชุ่ม
- ระยะปลูกที่เหมาะสมสำหรับผักชีฝรั่งคือ 15-20 เซนติเมตร ระหว่างต้น และ 30-40 เซนติเมตร ระหว่างแถว
การดูแลต้นผักชีฝรั่ง
- การให้น้ำ: ผักชีฝรั่งต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเช้า หรือเย็น ควรรดน้ำให้ดินชุ่มชื้น แต่ไม่แฉะจนเกินไป หลีกเลี่ยงการรดน้ำโดนใบโดยตรง เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเชื้อรา
- การให้ปุ๋ย: ผักชีฝรั่งต้องการธาตุอาหารอย่างสม่ำเสมอ ควรให้ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก ทุกๆ 2-3 สัปดาห์ หรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 ในปริมาณที่เหมาะสม ตามคำแนะนำบนฉลาก
- การกำจัดวัชพืช: หมั่นกำจัดวัชพืชรอบๆ ต้นผักชีฝรั่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชแย่งน้ำและธาตุอาหาร
- การป้องกันโรคและแมลง: ผักชีฝรั่งค่อนข้างทนทานต่อโรคและแมลง แต่ก็อาจพบปัญหาได้บ้าง เช่น โรคราแป้ง โรคใบจุด และเพลี้ยอ่อน หากพบโรคหรือแมลง ควรใช้สารชีวภัณฑ์ หรือสารกำจัดศัตรูพืชที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
- การพรวนดิน: พรวนดินรอบๆ ต้นผักชีฝรั่งเป็นครั้งคราว เพื่อให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดี
ผักชีฝรั่ง ปลูกกี่วัน ?
ผักชีฝรั่งสามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 60-90 วัน หลังปลูก
การเก็บเกี่ยว
- การเก็บเกี่ยวควรทำเมื่อต้นมีใบที่สมบูรณ์ และมีขนาดพอเหมาะกับการใช้งาน
- ใช้กรรไกรตัดกิ่ง หรือมีดคม ตัดก้านผักชีฝรั่งเหนือดิน ประมาณ 2-3 เซนติเมตร
- ควรเก็บเกี่ยวในช่วงเช้า ที่อากาศเย็น และใบยังสดชื่น
- การเก็บเกี่ยวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยกระตุ้นให้แตกใบใหม่ และให้ผลผลิตต่อเนื่อง
ผักชีฝรั่ง สรรพคุณ
ผักชีฝรั่งไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินเค วิตามินซี วิตามินเอ โฟเลต และธาตุเหล็ก การบริโภคผักชีฝรั่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น:
- เสริมสร้างกระดูก: วิตามินเคในผักชีฝรั่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างและบำรุงกระดูกให้แข็งแรง
- ต้านอนุมูลอิสระ: ผักชีฝรั่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
- บำรุงสายตา: วิตามินเอและสารแคโรทีนอยด์ในผักชีฝรั่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา
- ช่วยย่อยอาหาร: ผักชีฝรั่งมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
อยากปลูกผักชีฝรั่งให้ได้ผลผลิตที่แข็งแรง ปลูกง่ายโตไว ต้านทานโรคได้ดี
ต้องเริ่มต้น ที่เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ สั่งซื้อ เมล็ดพันธุ์ ได้ที่นี่เลย
หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @260afyhm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ