Last Updated on มกราคม 4, 2025 by admin
กระบองเพชร หรือแคคตัส เป็นพืชอวบน้ำที่ได้รับความนิยมในการปลูกเลี้ยงเป็นอย่างมาก ด้วยรูปทรงที่แปลกตาและความสามารถในการทนแล้ง ทำให้แคคตัสเป็นพืชที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาในการดูแลมากนัก อย่างไรก็ตาม วิธีเลี้ยงแคคตัสให้สวยงามและแข็งแรงนั้นก็ต้องอาศัยความรู้และความใส่ใจอยู่ไม่น้อย
การเลือกซื้อแคคตัส
สังเกตสภาพโดยรวม: เลือกต้นที่สมบูรณ์ ลำต้นตึง ไม่มีรอยช้ำหรือรอยด่าง
ตรวจสอบราก: ตรวจดูรากว่าสมบูรณ์และไม่มีรากเน่า
เลือกชนิดที่เหมาะสม: เลือกชนิดของแคคตัสที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในบ้านของคุณ เช่น แคคตัสที่ชอบแดดจัดหรือแคคตัสที่ชอบร่มเงา
วิธีเลี้ยงแคคตัส
1 แสงแดด
ถึงแม้แคคตัส จะเป็นพืชที่ชอบแสงแดด แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่คุณสามารถเลี้ยงแบบให้เจอแสงแดดจัดทั้งวันได้ ดังนั้นการเลี้ยงแคคตัสส่วนมากจึงจำเป็นต้องมีที่พรางแสงให้ในบริเวณที่เลี้บงเพื่อลดความเข้มข้นของแสงลง (อย่างเช่นการใข้แสลน )ไม่เช่นนั้น
แคคตัสของคุณก็อาจจะเกิด อาการ เบิร์นแดด หรือไหม้แดดได้ สังเกตได้ด้วยการ สีของกระบองเพชร เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีอื่นที่ไม่ใช่สีปกติของเขา เช่นจากสีเขียวกลายเป็น สีน้ำตาล หรือเหลือง
แต่โดยทั่วไปแคคตัสต้องการแสงแดดอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงต่อวัน หากวางแคคตัสไว้ในที่ร่มเกินไป ต้นจะยืดและอ่อนแอ
2 อุณหภูมิ และความชื้น
แคคตัสชอบอุณหภูมิที่อบอุ่น แต่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่แตกต่างกันได้ค่อนข้างมาก แคคตัสชอบอากาศแห้ง ไม่ชอบ
ความชื้นที่มากจนเกินไป
3 การรดน้ำ
อีกเรื่องที่สำคัญเช่นกัน แคคตัสต้องการน้ำ ในปริมาณที่พอเหมาะ คือประมาณ 5-7 วัน ครั้งนึง วิธีเช็คคือถ้าดินแห้ง ก็รดได้เลย
(ทั้งนี้ ขึ้นกับสภาพอากาศด้วย ช่วงในอากาศร้อนจัด ก็อาจจะต้องรดไวหน่อย ) แคคตัสเป็นพืชที่ไม่ควร รดน้ำทุกวัน
แคคตัสเป็นพืชที่อดน้ำแล้วยังฟื้นได้ แต่ถ้าได้รับความชื้นเกินไปจนรากเน่า อาจะทำให้แคคตัสตายได้ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน
ผู้เลี้ยงก็อาจจะยืดระยะเวลาในการรดน้ำออกไป
4 การใส่ปุ๋ย
ควรใส่ปุ๋ยให้แคคตัสในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูฝน โดยใช้ปุ๋ยสำหรับแคคตัสโดยเฉพาะ หรือปุ๋ยที่มีไนโตรเจนต่ำ
5 ดินปลูกแคคตัส
ไม่มีกฎตายตัวสำหรับดินปลูกแคคตัส แต่เวลาเลือกซื้อ ก็ขอให้เลือกที่ มีคุณสมบัติ โปร่ง ,ระบายน้ำได้ดี แต่ยังเก็บน้ำไว้ได้บางส่วน มีธาตุอาหาร ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่ แคคตัสต้องการ หลีกเลี้ยงการใช้ดิน ที่อุ้มน้ำมากๆโดยเด็ดขาด เพราะอาจะทำให้ แคคตัสต้นโปรดของคุณตายได้ ดินปลูกสำหรับแคคตัสควรมีส่วนผสมที่ระบายน้ำได้ดี เช่น ดินผสมทรายหยาบ เปลือกไม้ หรืออิฐแดงที่บดละเอียด การเตรียมดินปลูกที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันไม่ให้รากเน่า
6 สถานที่เลี้ยง
สำหรับมือสมัครเล่น ที่ไม่ได้เลี้ยงแคคตัสจริงจัง ก็คงไม่ได้อยากลงทุนกับโรงเรือนราคาแพงเท่าไหร่ ดังนั้น สถานที่เลี้ยง ก็คือให้ยึดหลักนี้ คือ เป็นจุดที่ ได้รับแสงได้ดี อย่างน้อยเป็นเวลาครึ่งวัน เช่นบริเวณ ริมระเบียง หรือชายคาบ้าน สถานที่ที่ควรหลีกเลี่ยง ก็อย่างเช่น ในบริเวณ ห้องน้ำ หรือ ห้องน้ำ เนื่องจาก แคคตัสต้องการแสงมาก ในการเจริญเติบโต
7 การเปลี่ยนกระถาง
ก่อนเปลี่ยนกระถางให้แคคตัส ควรบีบกระถางให้ดินคลายตัว เพื่อจะได้ดึงแคคตัสออกมาได้ง่ายขึ้น จากนั้น ตัดรากให้เหลือ 2 ซม. แล้วผึ่งแคคตัสไว้ซัก2วัน แล้วค่อยน้ำลงปลูก กระถางที่ใช้ ควรมีขนาดพอดี ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ถ้า เล็กเกินไป จะทำให้ แคคตัสไม่ค่อยโต แต่ถ้ากระถางใหญ่เกินไป จะทำให้คุมความชื้นได้ยากเวลา รดน้ำ ส่งผลเสียมากกว่าผลดี
8 เลือกเลี้ยงสายพันธุ์ที่ชอบ
เพราะการเลี้ยงแคคตัส คือความสุข ดังนั้น ก็เลือกเลี้ยงสายพันธุ์ที่คุณชอบดีที่สุด แล้วศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับสายพันธุ์นั้นๆ และคุณจะมีความสุขในการอยู่กับแคคตัสทุกวัน
9 ราคา
แคคตัส ก็เป็นพืชที่มี หลากหลาย ราคา แล้วแต่ความ หายาก ,ปริมาณที่มีในตลาด และความนิยมในช่วงนั้น หรือ ขนาดของต้นก็มีผลกับราคาเช่นกัน
10 เริ่มเลี้ยงจากต้นเล็ก
เพื่อให้ได้เห็นพัฒนาการ การเติบโตของแคคตัสของคุณ นอกจากได้ความสนุก ยังมี ความสุขและความภาคภูมิใจในการเลี้ยงเป็นของแถมอีกด้วย ที่สำคัญ ประหยัดกว่า การซื้อแคคตัสที่โตแล้ว
โรคและแมลงศัตรู
โรคที่พบบ่อยในแคคตัส ได้แก่ โรครากเน่า ซึ่งเกิดจากการรดน้ำมากเกินไป หรือการระบายน้ำไม่ดี แมลงศัตรูที่พบบ่อย ได้แก่ เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง และไรแดง
วิธีการเลี้ยงแคคตัสให้สวยงามและแข็งแรงนั้นไม่ยาก เพียงแค่เราให้ความใส่ใจในเรื่องของแสงแดด น้ำ ดิน และปุ๋ยที่เหมาะสม การเลือกชนิดของแคคตัสที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน หากคุณทำตามคำแนะนำเหล่านี้ เชื่อว่าคุณจะสามารถเลี้ยงแคคตัสได้อย่างมีความสุข
ที่ ร้าน lucky worm มีดินแคคตัส สูตรพรีเมี่ยม จำหน่ายแล้วนะ
สั่งซื้อ แอดไลน์เลย @luckyworm