กะหล่ำดอกเป็นผักที่นิยมบริโภคทั่วโลก ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพแต่ยังมีความทนทานต่อสภาพอากาศ และใช้น้ำน้อยกว่าพืชผักอื่นๆ ซึ่งทำให้มีตลาดรองรับได้ตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม การปลูกกะหล่ำดอกต้องใช้สายพันธุ์ที่เหมาะสมกับฤดูกาลและเตรียมดินและสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเพื่อให้พืชเติบโตดีและลดความเสี่ยงเรื่องโรค ได้แก่การเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับฤดูกาลและสภาพอากาศ
หากปลูกในช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) ควรเลือกสายพันธุ์ “พอลล่า” เนื่องจากสายพันธุ์นี้มีคุณสมบัติที่แข็งแรงทนต่ออากาศหนาวเย็น และทนทานต่อโรค ส่งผลให้มีการเจริญเติบโตและออกดอกสม่ำเสมอ โดยอายุการเก็บเกี่ยวจะอยู่ที่ประมาณ 55-60 วันหลังย้ายกล้า
สำหรับการปลูกในช่วงฤดูร้อน-ฤดูฝน (มีนาคม-ตุลาคม) สายพันธุ์ที่เหมาะสมคือ “สตาร์” เนื่องจากทนร้อนทนฝนได้ดี
และเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เสมอ โดยมีอายุเก็บเกี่ยวเพียง 45-55 วัน หลังจากย้ายกล้า
การปลูกกะหล่ำดอกนั้นไม่ควรปลูกซ้ำบนพื้นที่เดิม เนื่องจากจะเสี่ยงต่อโรคพืช จึงควรปลูกกะหล่ำดอกสลับแปลงกับการทำนา และหมุนเวียนการปลูกปีละประมาณ 3 รอบ ในทุกฤดูกาล เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคพืชและเพิ่มโอกาสในการได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและราคาดีกว่า
การเลือกเมล็ดพันธุ์
ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ มีกระบวนการผลิตได้มาตรฐาน มีวันที่ผลิต และหมดอายุบอกชัดเจน
สะอาด ไม่ปนเปื้อนเชื้อโรคเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคภารหลัง
การเตรียมดินปลูก กะหล่ำดอก
จะเตรียมเองก็ได้ หรือซื้อสำเร็จเอาจากร้านค้าก็ได้ หัวใจสำคัญคือที่ดินที่ใช้ปลูก ต้องมีความร่วนซุย
และมีสารอาหารที่จำเป็นเพียงพอ
ขั้นตอนการปลูก
1 ก่อน เพาะกล้า ควรนำเมล็ดดอกกะหล่ำไปแช่น้ำเสียก่อน ประมาณ 30 นาที แล้วผึ่งลมให้แห้ง
จากนั้น นำเมล็ดมาหยอดลงในถาดเพาะ หลุมละ 1-3 เมล็ด แล้วกลบด้วยดินปลูกที่เตรียมไว้
แล้วรดน้ำตาม การรดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง
2 รอเวลาประมาณ 7-10 วันก็จะเห็น ต้นอ่อนงอกขึ้นมา ก็ได้เวลาที่ จะย้ายต้นอ่อน ลงในกระถาง
ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา จากนั้นดูแล จนต้นกะหล่ำดอกมี ใบจริง ประมาณ 3-5 ใบ ( ใช้เวลาประมาณ
35-40 วัน ) แล้วจึงย้ายลงในแปลงปลูกต่อไป
3 การเตรียมแปลงปลูก ให้ขุดหลุม ไว้ลึกประมาณ 15-20 ซม. แล้วรองก้นหลุมด้วย
ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอกหมัก หรือ มูลไส้เดือนก็ได้
4 การเคลื่อนย้ายต้นกล้า ลงในแปลงปลูก ควรทำด้วยความระมัดระวังไม่ให้รากเสียหาย
หลังจากวางต้นกล้าลงในหลุมที่ขุดเตรียมไว้ ให้นำดินที่อยู่บริเวณรอบมากลบแล้วใช้มือ
กดให้แน่นบริเวณโคนต้น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม การย้ายต้นกล้า ควรทำในช่วงเวลาเย็น
ที่แสงแดดไม่จัด เพื่อให้ต้นกล้าดอกกะหล่ำมีเวลาได้พักผ่อน
5 หลังจากผ่านไปได้ 1 อาทิตย์ ต้นกล้า ก็ควรจะตั้งต้นได้แล้ว ท่านก็สามารถให้ปุ๋ย
เพื่อเพิ่มสารอาหารและเร่งการเจริญเติบโตได้เลย โดยควรให้ประมาณ อาทิตย์ก็พอ
และอย่าลืม รดน้ำตามให้ชุ่ม ทุกครั้งหลังให้ปุ๋ย
6 ควรมีการฉีดพ่น ชีวภัณฑ์ เพื่อป้องกัน ศัตรูพืช ต่างๆ ที่จะคอยเข้ามาทำลายผลผลิต
ที่เจอบ่อยก็ได้แก่ หนอนชอนใบ หนอนผีเสื้อ หนอนใยผักเป็นต้น
7 เมื่อ ดอกกะหล่ำติด ให้ใช้เชือก มัดรวมใบยอดใบเพื่อคลุม ดอกกะหล่ำ ที่อยู่ด้านใด
เพื่อให้ ดอกกะหล่ำสวยขาว และยังเป็นการปกป้อง ดอกจากแมลงศัตรูพืชอีกด้วย
อยากปลูกกะหล่ำดอก ให้ได้ผลผลิตที่แข็งแรง ปลูกง่ายโตไว ต้านทานโรคได้ดี
ต้องเริ่มต้น ที่เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ สั่งซื้อ เมล็ดพันธุ์ กะหล่ำดอกได้ที่นี่เลย
หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @luckyworm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ
